ก่อนจะลุยออกไปหาช่างตัดผมในยุค Covid 19 แบบนี้ มาทำการบ้านกันก่อนดีกว่าว่าทรงไหนกำลังมา ทรงไหนไม่ควรพลาด ทรงไหนตัดแล้วโคตรฮอต จะได้ไม่ไปนั่งงงในร้าน ทั้งหล่อและรอดจากโควิด! ลืมการตัดทรงเดิมซ้ำ ๆ เพื่อความเซฟไปก่อน เพราะวันนี้เราจะมาบอกทรงผมที่ผู้ชายทั่วโลกเค้ายืนยัน นั่งยัน นอนยันมาแล้วว่ารอดจริง หน้าสไตล์ไหนก็เอาอยู่ ตัดแล้วดูดีขึ้นล้านเท่า
ทรงบัซคัท (Buzz Cut)
ทรงผมแบดบอยที่สาวๆเห็นเป็นเข่าอ่อน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแพ้ทาง อย่างทรงบัซคัทที่ โต้ง ทูพี ตัดยืนหนึ่งมาหลายปีแต่ก็ไม่ดูตกเทรนด์ สาวๆคนไหนเห็นเป็นต้องกรี๊ดแย่งกันเป็นเลดี้ปราง เป็นทรงที่ใช้หวีรองตัดปัตตาเลี่ยนทั่วศีรษะตั้งแต่แบบกลางไปถึงต่ำสุด ให้ลุคสะอาด เฉียบคม แบบแบดบอย เหมาะกับสายตื่นยากที่ไม่ชอบเซ็ตผม แต่ยังรักความสะอาด ตื่นมาก็กดเข้าซูมพร้อมประชุมเลย
2. รองทรงสูง (Textured Crop)
ทรงที่มาแรงมากกกกกกหลังจาก Peaky Blinder ซีซั่น 4 ปล่อย เรียกได้ว่าเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ทั่วโลก คนแห่ไปตัดตามกันอย่างบ้าคลั่ง เป็นการตัดสั้นสุดด้านข้างและด้านหลังด้วยหัวรองตัดของปัตตาเลี่ยนเบอร์ 1 หรือ 2 เหลือด้านบนไว้ยาวๆเพื่อเซ็ตให้ดูมีวอลลุ่ม ทรงนี้ต้องเซ็ตด้วยโพเมดสูตรด้าน หรือ ดำด้านเพื่อให้ผมเป็นทรงที่อยากได้ และอยู่ได้นาน เหงื่อออกก็ไม่พังระหว่างวัน ลุคนี้เป็นลุคที่ต้องปัดผมหน้าม้าไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือปล่อยไว้เซอร์ๆด้วยการใช้โพเมดจัดให้ผมดูยุ่งๆเพื่อเพิ่มเลเยอร์และเท็กซ์เจอร์ เหมาะกับสายบอสใหญ่ หนุ่มซีอีโอ หนุ่มออฟฟิศ หรือบาริสต้าที่มีสไตล์ความชิคอยู่ในสายเลือด ชอบการเซ็ตผมแบบปังๆโชว์ความแมนทุกวันในการทำงาน
3. ทรงแอฟโฟร่แบบสั้น (Short Afro)
ทรงแอฟโฟร่สั้นให้ฟีลลิ่งนักรัก สายฮิป ที่พร้อมยิงมุขให้สาวๆหัวเราะ ยกตัวอย่าง เช่น หนุ่มบรูโน่ มาส์ หรือ ดอนัลด์ โกลเวอร์ นักธุรกิจรวยล้นฟ้าที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นเงิน บอกเลยว่าตัดทรงนี้ไปไหนในไทยก็เด่น เพราะเป็นทรงที่คนไทยไม่กล้าตัดแต่บอกเลยว่าเมืองนอกฮิตไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ไปไหนใคร ๆ ก็ตัด ไม่ได้เป็นทรงมั่วๆ หัวยุ่งๆ ที่ทำได้ง่ายๆ นะบอกก่อน ต้องไว้ผมยาวพอให้ดัดติดหนังหัวได้เท่านั้น จะหล่อทั้งทีต้องมีความพยายามกันนิดนึง
4. ทรงชอปปี้ครูว์คัต (Choppy Crew Cut)
บอกเลยว่าทรงนี้ใครตัดก็กลายเป็นเน็ตไอดอลเมกา หล่ออินเตอร์ไม่ไหว ยุคไหนก็ไม่มีเอาท์ ยืนยันด้วยเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ทั่วทุกมุมโลกเพราะเป็นทรงที่ เดวิด เบคแฮม และคริส อีแวนส์ ตัดตลอดดดด… บอกช่างเลยว่าตัดด้านหลังกับด้านข้างครึ่งนิ้ว ไล่ความยาวขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องเกิน 2 นิ้ว จากนั้นค่อยตัดข้างบนแบบไม่ต้องสั้นมาก หรือจะเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยการใช้โพเมดสูตรเงาในวันที่อยากหล่อจนสาว ๆ ละลาย
5. ทรงสลิคแบค (Slick Back)
เป็นทรงกันตายที่อยากให้ทุกคนลองดูสักครั้ง หล่อง่าย ๆ แค่หยิบโพเมดขึ้นมาปาดทีเดียวอยู่ หวีเรียบๆด้วยหวีเหล็กที่หนักพอประมาณก็จบ โคตรง่าย ไม่ต้องมีหน้าขั้นเทพก็เกิดได้ด้วยทรงนี้ เป็นการตัดผมข้าง ๆ สั้น เหลือด้านบนไว้ให้ยาวที่สุด แล้วไล่ระดับความสั้นลงมาเรื่อยๆ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึง แบรด พิตต์ จัสติน บีเบอร์ และจัสติน ทิมเบอร์เลค เพราะเป็นทรงประจำตัวของพวกเค้าเหล้านั้น เอาอยู่ทุกสถานการณ์ จะ WFH ออกงาน หรือออกเดทก็ปัง หล่อสะกด
Written by: Nat Saranya
Source: apetogentleman.com