ตัดผมปังปินาศมา.. ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มีวิธีจัดการยังไงบ้าง?!

เชื่อว่าผู้ชายทุกคนต้องเคยเจอปัญหา.. ตัดผมมาไม่ตรงปก รู้สึกอาย.. ไม่กล้าออกไปใช้ชีวิต วันนี้ทัฟแอนด์ทัมเบิลเลยจะมาบอกวิธีการรับมือกับทรงผมสุดเยิน.. จัดการยังไงได้บ้างเมื่อเกิดเหตุการณ์สุดเซ็งนี้

1.หยุดเกรงใจ บอกช่างไปตรงๆ

แน่นอนว่าคนไทยเป็นคนขี้เกรงใจมากถึงมากที่สุด แต่ถ้าเสียเงินตัดผมทั้งที ก็ต้องเอาให้ดีแบบที่ตัวเองชอบ จริงมั้ยพวก?.. เพราะฉะนั้นบอกช่างไปเถอะว่าให้แก้ตรงไหน ไม่ต้องยิ้มกลบเกลื่อนความในใจแล้วเก็บไปเครียดต่อ แต่ถ้ารู้สึกว่าช่างคนเดิมฝีมือไม่ได้ ก็ลองเปลี่ยนคนใหม่ แต่ถ้ามันแย่เกินจะเยียวยาจนเกินไป ก็เปลี่ยนร้านใหม่ หาช่างปังๆไปเลย เสียเงินเพิ่มอีกหน่อยแต่ดีกว่าต้องทนกับทรงผมพังๆแน่นอน

2.ฉีกลุคเดิม

ถ้าช่างตัดแปลกไป ไม่เหมือนทรงเดิมที่คุณไว้มานานหลายปี นั่นถือเป็นเรื่องดีมากกว่าที่ควรเครียด ถือโอกาสนี้ลองสไตล์ใหม่ๆ เปลี่ยนลุคตัวเองไปในตัว ไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จัดการแต่งทรงให้มันสุดไปเลย ผมคุณอาจจะดูแย่ตอนนี้แต่ไม่แน่หลังเซต อาจจะดูดีขึ้นหลายสิบเท่า ตัวช่วยที่ต้องมีก็แค่ โพเมด แว็กซ์ หรือเจลแต่งผม เอาไว้ล็อกให้มันอยู่ทรงยาวนานเท่านั้น

3.ลาละสังคม ใส่หมวกเก็บทรงดีกว่า

ถ้ามันแก้ไม่ได้จริงๆ ทางออกเดียวที่มีคือการใส่หมวกซ่อนทรงผม หลบสังคมสักพักนึง รอให้ผมเริ่มยาวเข้าที่ค่อยออกไปพบปะฝูงชน ยิ่งตอนนี้ WFH ยิ่งแหล่มเลย มีเวลาไว้ผมยาว

4.พสจ๋า พี่มาแล้ว

อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนใจเด็ด คือ โกนหัวแบบสกินเฮดหรือบัซคัทแบบพสไปเลย ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครตัดออกมาแย่จนถึงขั้นต้องโกนทิ้ง แต่ถ้าคุณอยากรู้ว่าการหัวล้านก่อนอายุ 80 มันเป็นยังไง ก็ไม่มีโอกาสไหนเหมาะไปมากกว่านี้อีกแล้ว จัดเลย! แต่ฝากไว้นิดนึงว่าการไถผมก็ควรไถให้ถูกวิธี ถ้าไม่อยากมีรอยแผลบนหัว

5.รอเวลา

ผมมันยาวได้.. ไม่ช้าก็เร็ว! คุณอาจจะไม่ชอบทรงผมตัวเองในวันนี้ แต่อีก 2 อาทิตย์มันจะดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆหลังจากนั้น จนกระทั่งกลายเป็นทรงที่คุณชอบ ทำใจให้สบาย หยิบแก้ววิสกี้มากระดกรอเวลา อีกไม่นานก็จะได้ทรงเดิมกลับคืนมา ทรงผมแย่ๆมันไม่อยู่กับคุณตลอดไปหรอก

เอาใจช่วยผู้ชายทุกคนที่ตัดผมออกมาไม่ได้ดั่งใจ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. ตัดผิดชีวิตเปลี่ยนมีอยู่จริง! คราวหลังก็เลือกร้าน เลือกช่างให้ดีๆ และเลือกทรงที่เหมาะกับตัวเองด้วย ส่วนใครที่พลาด ตัดพังไปแล้ว ลองเอาเทคนิคด้านบนไปปรับใช้กันดู อาจจะช่วยฟื้นฟูระหว่างรอผมยาวได้บ้าง!

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya

Source: askmen

---

บอกรักแม่ยังไง.. ตามสไตล์ลูกผู้ชายไม่ให้เขิน

และแล้ววันแม่ปีนี้ก็วนกลับมาอีกครั้ง.. หลายคนอาจไม่ได้กลับบ้านเพราะสถานการณ์โควิด แต่ถึงอย่างงั้นก็อย่าเพิ่งกดออกไป ยังมีอีกหลายโอกาสที่คุณสามารถทำให้ท่านรู้ว่ารักได้ อย่างที่มีคนเคยบอกไว้ว่า.. "เราบอกรักแม่ได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องรอโอกาสพิเศษ" วันนี้ ทัฟแอนด์ทัมเบิล เลยรวบรวมวิธีสื่อความรักสไตล์ลูกผู้ชาย สำหรับคนที่เขินอาย ไม่รู้ต้องทำยังไงดี มาไว้ให้ทำกัน หวังว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยลดความเคอะเขินลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

เทคแคร์เก่ง

นัดเพื่อน หรือนัดสาวมัน มันนัดกันได้ทุกเมื่อ เพราะงั้นหันมาใส่ใจคนในครอบครัวก่อนสักนิดก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าคุณเป็นคนที่อยู่กับแม่หรือสามารถเดินทางไป-กลับบ้านได้บ่อย ๆ การคอยแวะไปดูแลท่านบ้าง ก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้คนเป็นแม่อุ่นใจ ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนก็อย่าลืมสละเวลาไปให้ท่านบ้างล่ะ จะได้ไม่มาเสียใจทีหลังเวลาที่ท่านไม่อยู่แล้ว

ไลน์บ่อยๆเอาให้เบื่อ

แน่นอนว่าคุณไม่ได้ตัวติดกับแม่ 24 ชม. การโทรไปหาท่านบ้าง ก็เป็นอีกทางที่ทำให้ท่านสบายใจ หากคุณเป็นคนที่อยู่บ้านเดียวกับแม่ ก็อาจจะโทรไปหลังเลิกงานเพื่อบอกให้รู้ว่าคุณกำลังกลับบ้าน ไม่ต้องเป็นห่วง หรือหากว่าคุณย้ายออกมาแล้ว การแชทไปชวนคุยเรื่องเล็กๆน้อยๆ อัพเดตชีวิตให้แม่ฟังบ้าง ก็พอที่จะทำให้ท่านอุ่นใจขึ้นมาหน่อย..ว่าคุณยังสบายดี ยังคิดถึงท่านอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าท่านจะรำคาญเพราะแม่ทุกคนชอบอยู่แล้วเวลาลูกแชทหาบ่อยๆ

อัพเวลเทคโนโลยีให้แม่

ยุคดิจิตอล 4.0 เทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าคนรุ่นแม่คงตามไม่ทัน และบางครั้งก็รู้สึกเกรงใจที่จะถามคุณบ่อยๆ เพราะฉะนั้นการที่คุณคอยสอนท่านอย่างใจเย็น เช่น การสอนใช้ไอแพด หรือใช้อุปกรณ์ไอที ก็เป็นการทำให้ท่านรู้ว่าสามารถหันหน้าหาคุณได้เวลามีปัญหาอะไรสักอย่าง

เลิกตีกับแม่

ช่วงนี้โดนขังอยู่แต่บ้านด้วยการเวิร์คฟอร์มโฮม (WFH) ก็อาจจะมีกระทบกระทั่งกับแม่บ้างพออยู่ด้วยกันนานๆ แต่คุณต้องข่มใจไว้ การบอกรักแม่ที่ดีที่สุดคือ การรักษาน้ำใจของท่านด้วยการเลือกใช้แต่คำพูดดีๆ บางทีโตขึ้นอาจจะเผลอลืมตัวกันไปบ้าง คุณก็แค่ต้องระวังคำพูดให้มากขึ้น แค่นี้แม่ก็เรียกได้ว่าเป็นลูกที่ดีแล้ว

เปย์เป็นพวง

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ถ้าคำว่ารักมันพูดยาก ก็ซื้อพวงมาลัยเปย์แม่แทนไปเลย แต่ถ้าพวงมาลัยธรรมดามันเอาท์เกินไป ลองเปลี่ยนมาให้พวงมาลัยแซลมอนดู นอกจากจะได้ความซึ้งแล้วยังได้อิ่มท้องอีกต่างหาก แถมยังช่วยซัพพอร์ตคนที่ทำมาค้าขายในช่วงโควิดอีกด้วย จ่ายครั้งเดียวได้ถึง 2 ต่อ

ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ก็ถือว่าคุณได้พยายามทำอะไรเพื่อแม่ไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ด้วยการเริ่มหันมาใส่ใจวิธีที่จะทำให้ท่านยิ้มได้มากขึ้น ต่อไปก็เหลือแค่การลงมือทำ เก็บความตั้งใจนี้ไว้แล้วเอาวิธีที่ได้วันนี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันดู อย่าลืมว่า “เราบอกรักแม่ได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องรอโอกาสพิเศษ" นะโบรว์!

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya

---

ฮาว-ทู-สตรอง ..สตรองยังงัยในยุคโควิด!

เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านก็คงนอย, เพลีย กับสถานการณ์โควิดบ้านเราเวลานี้.. หนำซ้ำตามสถิติ ชี้ว่าผู้ชายมีโอกาสป่วยหรือตายเพราะติดโควิดมากกว่าผู้หญิงถึง 2 เท่า นี่ไม่ใช่เรื่องโกหก.. มีงานวิจัยออกมายืนยันแล้วว่าสาเหตุหลัก ๆ มาจากชีวภาพในร่างกายและนิสัยที่ต่างกันของผู้ชายและผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายมีความเสี่ยงสูงกว่า แต่ถึงอย่างงั้น คุณก็คงเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนและพันธุกรรมของตัวเองไม่ได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้คือการเปลี่ยนนิสัยและวิธีดูแลตัวเองให้สตรองงงง พร้อมสู้กับไวรัส!

เสพข่าวให้น้อยลง ป้องกันให้มากขึ้น

ข้อมูลเป็นสาระที่ดี เป็นเมื่อใดที่การรับรู้ข้อมูลมากเกินไป จะส่งผลให้เกิดความเครียดที่ไม่จำเป็น.. ให้คิดซะว่าทุกคนบนท้องถนน ติดโควิดหมดแล้วเรียบร้อย แล้วคุณจะป้องกันตัวเองยังไงถ้าต้องออกไปเจอกับผู้คนเหล่านี้ ก็ให้เริ่มปฏิบัติตัวแบบนั้นเลย เพราะยอดติดเชื้อพุ่งขึ้นทุกวัน.. ไม่มีลด การเสพข่าวเยอะ ๆ อาจทำให้เครียดมากไปเปล่า ๆ หันมาป้องกันตัวเองให้ดีที่สุดกันดีกว่า เป็นการแบ่งเบาภาระแพทย์ไปในตัว

---

ว่าบ่อยแล้ว.. ต้องล้างบ่อยกว่าเดิม

งานวิจัยโชว์ว่าผู้ชายทั่วโลกล้างมือไม่บ่อยเท่าผู้หญิง เช่น ในประเทศเกาหลีใต้มีแค่ 34%ของนักเรียนชายที่ล้างมือ 5 ครั้งต่อวัน ในขณะที่มีนักเรียนหญิงมีมากถึง 57% และในอเมริกา 56% ของผู้หญิงล้างมือด้วยสบู่ แต่ผู้ชายกับมีแค่ 29% ส่วนในประเทศอังกฤษผู้ชาย 1 ใน 6 คนไม่ล้างมือหลังทำธุระเสร็จ! นี่เลยเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ถึงติดโควิดง่ายกว่าผู้หญิง เพราะฉะนั้นล้างมือด้วยสบู่ซะ อย่างน้อย 20 วินาที หรือเท่าการร้องเพลง happy birthday 2 รอบ

---

กินแต่ของปรุงสุก

ถึงแม้ว่าตอนนี้ต้องสั่งอาหารมากินที่บ้านเท่านั้น ก็ต้องสั่งแต่อาหารที่ปรุงสุกเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสที่อาจปนเปื้อน และไม่ควรสั่งเกินพอดี เพราะต่อให้คุณจะอยากซัพพอร์ตร้านอาหาต่าง ๆ มากแค่ไหน ก็ควรซื้อไว้แค่พอกิน เพราะร่างกายของคุณใช้พลังงานน้อยลง การกินเยอะจนเกินไปหรือกินแก้เบื่อจะทำให้คุณอ้วนและอาจมีปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคตอันใกล้

---

พักเรื่องแอลกอฮอล์ไว้ก่อน

การดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินไปทำให้เสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และการชวนคนอื่นมาสังสรรค์ที่บ้านก็ไม่ต่างจากการเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเอง เพราะฉะนั้น พักก่อนถ้าไม่อยากติด!

---

หยุดเป็นสิงห์รมควัน

WHO ออกมาบอกแล้วว่าการสูบบุหรี่จะทำให้อาการทรุดหนักหากติดโควิด 19 และจากงานวิจัยของหลาย ๆ ประเทศพบว่าผู้ชายสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง เช่น ในประเทศจีน 46% ของผู้ชายสูบบุหรี่ ในขณะที่ผู้หญิงมีเพียง 1% เท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น.. เชื่อว่าผู้ชายหลายคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้ามันเพิ่มความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสไปด้วยล่ะ อาจถึงเวลาอันสมควรที่จะหยุดสูบบุหรี่

---

ออกกำลังกายบ้างก็ดี

ล็อกดาวน์ครั้งนี้ก็ยังมีหลายอย่างที่เปิด เพื่อให้คุณได้ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านบ้าง เพราะงั้นลองหากิจกรรมอะไรทำที่จะช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายและบริหารกล้ามเนื้อสักหน่อย เช่น การออกไปตีกอล์ฟ เล่นเทนนิส หรือทำกิจกรรมกับเพื่อนสักอย่าง ที่ยังสามารถรักษาระยะห่างได้ หรือจะเปิด Youtube แล้วฟิตหุ่นอยู่บ้านก็ไม่ว่ากัน อย่างน้อย ๆ แค่คุณได้ใช้ร่างกายบ้างก็ยังดี

สุขภาพจิตก็สำคัญ

ยิ่งกักตัวก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดสุขภาพก็ยิ่งแย่ เพราะงั้นคุณควรที่จะหาวิธีปล่อยวาง ถึงแม้ว่า 52% ของผู้ชายส่วนใหญ่จะไม่ชอบพูดเรื่องความรู้สึกของตัวเอง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องซ่อนมันเอาไว้เสมอไป ลองเปิดใจเล่าให้เพื่อน คนที่คุณรัก หรือจิตแพทย์ฟังบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ยิ่งในวิกฤตการณ์แบบนี้สุขภาพจิตยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ หมั่นใส่ใจมันและเล่าให้คนอื่นฟังบ้าง ไม่ต้องอาย! จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ปรึกษากันได้เป็นเรื่องปกติ

หวังว่านี่จะช่วยให้เหล่าเพื่อนพ้องผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย อย่าลืมว่าสุขภาพและกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ Stay Strong สู้! เราต้องรอดไปด้วยกัน

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya

Source: beezeebodies

---

กว่าจะมาเป็นนักดับเพลิง.. ไม่ใช่เรื่องง่าย!

จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ล่าสุด ทุกคนคงได้เห็นกันแล้วว่า.. "นักดับเพลิง" นั้นสำคัญแค่ไหน เป็นอาชีพที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ อดหลับอดนอน เพื่อเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือผู้คน เรียกได้ว่าเป็นฮีโร่ของเหตุการณ์ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ แต่รู้หรือไม่ว่า.. กว่าจะมาเป็นนักดับเพลิงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการทดสอบ และการเทรนด์มากมายก่อนได้ลงสนามจริง วันนี้เราเลยจะพาไปดูกันว่ากว่าจะมาเป็นนักดับเพลิงได้นั้นต้องผ่านด่านคัดเลือกอะไรบ้าง

1. สอบข้อเขียน

สเต็ปแรกของการคัดเลือก คือ ต้องสอบขอเขียนเข้าเป็นพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้ผ่านก่อน ไม่ว่าจะเรียนจบจากสายไหนก็สามารถสอบได้หมด ขอแค่มีร่างกายที่แข็งแรง พร้อมเรียนรู้และรับมือกับทุกสถานการณ์ไม่คาดคิด โดยการสอบจะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท พาร์ทแรกสุดเรียกว่า ภาค ก. คือการสอบข้อเขียนเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปเกี่ยวกับตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องการป้องกันไฟ การจัดการวัสดุอันตราย การใช้งานเครื่องจักร หรือโครงสร้างอาคารต่าง ๆ หลังจากสอบภาค ก. ผ่านแล้วถึงจะได้ผ่านไปขั้นตอนต่อไป

2. ทดสอบร่างกาย

เป็นขั้นทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย โดยจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 ฐาน ได้แก่ การวิ่ง 1,000 เมตร ภายใน 5 นาที ว่ายน้ำ 50 เมตร ภายใน 1.30 นาที ดันพื้น 20 ครั้ง ดึงข้อ 5 ครั้ง แบกตุ๊กตา 50 กิโลกรัม ปีนขึ้นลงบันไดสูง 2 เมตร ภายใน 40 วินาที และสุดท้ายคือการผลักบันไดดับเพลิง ผู้สมัครสอบทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะต้องผ่านการทดสอบเกณฑ์นี้เหมือนกันหมด ไม่มีข้อยกเว้น

3. สอบสัมภาษณ์

ด่านนี้เป็นการทดสอบจิตวิทยา วัดปฏิภาณไหวพริบและความสามารถในการตัดสินใจเมื่อแบกรับสถานการณ์เลวร้ายภายใต้ความกดดัน เพราะเป็นงานที่ต้องแข่งขันกับเวลาและความเป็นความตายของผู้คน จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะผ่านขั้นตอนนี้ได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะมาทำตำแหน่งนี้จึงต้องมีทักษะการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ และตัดสินใจได้รวดเร็ว เด็ดขาด อย่างมีเหตุและผล เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้ประสบภัย

4. เทรนด์ร่างกาย

หลังจากผ่านการทดสอบทั้ง 3 ขั้นตอนแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะได้ลงสนามเลย ยังต้องเข้ารับการฝึกเพื่อเป็นพนักงานดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยการเทรนด์เป็นอย่างต่ำ 10 - 24 สัปดาห์ เป็นการฝึกเพื่อปรับสภาพร่างกาย และจิตใจให้พร้อม เพื่อที่จะกู้ภัย และใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกวิธี

5. ประจำที่สถานีดับเพลิง

เมื่อได้รับการเทรนด์จนครบหลักสูตรแล้ว พนักงานดับเพลิงใหม่ยังคงต้องประจำการที่สถานีก่อน ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ จนกว่าจะได้รับการประเมินว่าร่างกายและจิตใจพร้อมแล้วถึงจะได้ลงสนามอย่างเต็มตัว

รู้อย่างงี้แล้ว.. รับรู้ได้ถึงความทุ่มเทของเหล่านักกู้ภัยหรือยัง ว่ากว่าจะมาช่วยเหลือสังคมได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านขั้นตอนมากมายให้ได้มาเป็นตัวแทนช่วยเหลือสังคมอยู่ตรงนี้ ช่างเป็นอาชีพที่น่านับถือจริง ๆ หวังว่าต่อไปผู้คนจะให้สนใจและให้ความสำคัญกับอาชีพนี้กันมากขึ้น เพราะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เสียสละมาก ๆ ในวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya

Source: BBC, นักดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยแห่งประเทศไทย

---

วิธีฝ่าวิกฤตความเหงาช่วงกักตัวสำหรับชาว Extrovert

ชาว Extrovert หลาย ๆ คนคงรู้สึกเหมือนกันว่ากักตัวนาน ๆ แล้วเริ่มเฉา ไม่รู้จะทำอะไรดี เพราะทำไปแทบจะหมดแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง คุณจะไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไปเพราะวันนี้ Tough & Tumble จะมาบอกวิธีก้าวผ่านความเปล่าเปลี่ยวนี้ว่าควรทำไรดีช่วงกักตัว

ฝึกสกิลใหม่

ลองหาอะไรทำแบบจริงจังดู ไม่ว่าจะเป็นการฝึกทำอาหาร ฝึกซ่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือฝึกหมา ฝึกแมวให้เชื่อง ไม่แน่หลังจากนี้คุณอาจจะได้มุขใหม่ไว้มัดใจสาว ๆ

หาไรเรียนเพิ่ม

ไหน ๆ ก็ว่างไม่รู้จะทำไร งั้นหาความรู้ใส่ตัวกันดีกว่า ด้วยการลงคอร์สเรียนภาษา เรียนเล่นดนตรี หรือจะเรียนอะไรก็ว่าไป ได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ไม่เสียทิ้งไปเปล่า ๆ เป็นการเพิ่มโอกาสในการหาเงินได้เยอะขึ้นไปในตัว

ลองดูหนังที่ไม่เคยคิดจะดู

การทำอะไรที่ไม่คิดจะทำก็เป็นการปลดล็อคตัวเองอีกขั้นนึง คุณอาจจะได้ Inspiration ใหม่ ๆ หรือได้รู้จักตัวเองมากขึ้นจากการดูหนังที่ไม่เคยสนใจก็ได้ ใครจะรู้

ปัดทินเดอร์/CMB

เหงาอะไรจะเท่าเหงาใจ.. โควิดระบาดแบบนี้จะให้ออกไปหาแฟนได้ยังไง โอกาสแทบเป็นศูนย์ หนุ่ม ๆ หลายคนคงรู้สึกเหงายิ่งกว่าเหงา แต่โควิดจะมาเป็นอุปสรรคอะไรถ้าใจเราอยากมีแฟน โหลดแอพมาปัดสิครับรอไร เผลอ ๆ ได้แฟนไวกว่าดีลกันตัวเป็น ๆ ด้วยซ้ำ

ฟิตหุ่น

นาน ๆ ทีจะมีโอกาสอยู่บ้านยาว ๆ เอาเวลานี้มาฟิตหุ่นเสริมหล่อก็ไม่เสียหาย หล่อขึ้นได้แบบไม่ต้องเสียค่าฟิตเนส

โทรหาเพื่อน

สาว ๆ ส่วนใหญ่เค้าใช้วิธีนี้คลายเหงากัน แต่จริง ๆ แล้วผู้ชายก็ทำได้รู้ยัง ไม่ใช่เรื่องแปลก การโทรไปคุยขิงคุยข่ากับเพื่อนมันช่วยให้หายเหงาได้จริงผู้หญิงเค้าเคลมมาแล้ว.. และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องอาย เชื่อเถอะว่าเพื่อนคุณก็คงเหงาไม่แพ้กัน

เล่นเกมส์

นอกจากดูหนังก็คงจะมีแต่เล่นเกมส์นี่แหละที่ฆ่าเวลาได้ดีที่สุด.. จะ ROV, DOTA หรือ FIFA ก็จัดมาอย่าให้ขาด ฝึกสกิลปาก สกิลบวกไปในตัว เผลอ ๆ ได้เพื่อนใหม่ อย่าล้อเล่นไป

เก็บห้อง

ทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดห้องให้เป็นระเบียบ เปลี่ยนนิสัยมาเป็นหนุ่มรักสะอาด รับรองว่าสาว ๆ กรี๊ดแน่นอน ขนาดบ้านยังดูแลขนาดนี้ แล้วแฟนจะดูแลดีขนาดไหน เปลี่ยนลุคเป็นผู้ชายสายเทคแคร์ในตำนาน

เห็นรึยังชาว Extrovert ว่าอยู่บ้านก็ไม่ได้แย่เสมอไป มีอะไรให้ทำเพียบ ลองเอากิจกรรมพวกนี้ไปทำดู รับรองว่าคุณจะยุ่งจนไม่มีเวลาเหงาอีกเลย

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya

---

เชื่อหรือไม่? ใส่แมสแล้วทำให้ผู้ชายดูฮอตขึ้นสิบเท่า

ผู้ชายหลาย ๆ คนอาจรู้สึกว่าการที่ต้องใส่แมสไปไหนมาไหนมันทำให้ดูเสียบุคลิก แต่งตัวยาก และยังปิดโอกาสที่จะดึงดูดเพศตรงข้ามโดยใช้หน้าตา แต่เชื่อหรือไม่ว่า 88% ของผู้หญิงในอเมริการู้สึกว่าผู้ชายที่ใส่หน้ากากดูเซ็กซี่และน่าดึงดูดมากกว่าคนที่ไม่ใส่ จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Pennsylvania บอกว่าเพราะการใส่แมสปิดจุดบกพร่อง ริ้วรอยต่าง ๆ บนหน้าเลยทำให้หลาย ๆ คนดูดีขึ้น เหมือนการใส่แว่นกันแดดที่ช่วยปิดสิ่งที่คนทั่วไปไม่ต้องการโชว์ด้วยการปิดครึ่งบนของใบหน้าแต่นี่เป็นการปิดครึ่งล่าง งานวิจัยนี้ให้ผู้หญิงแบ่งผู้ชายออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่น่าดึงดูด ปานกลาง และไม่น่าดึงดูดเลย พบว่าผู้ชายหลาย ๆ คนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มไม่น่าดึงดูดเลยตอนแรกกลายเป็นคนที่น่าดึงดูดขึ้นมาทันทีพอใส่แมส เรียกได้ใครไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะผู้หญิงหลายคนให้เหตุผลว่าอาจเป็นเพราะดวงตากับทรงผมที่ทำให้ผู้ชายหลาย ๆ คนดูมีเสน่ห์มากขึ้นตอนที่ใส่แมสแล้วปิดส่วนที่ไม่มีเสน่ห์ไว้ แต่การใส่แมสเฉย ๆ ก็คงไม่ได้ทำให้คุณดูดีขึ้นได้ขนาดนั้น วันนี้ Tough & Tumble เลยจะมาบอกวิธีใส่แมสยังไงให้ปัง ให้คุณดูฮอตขึ้นเป็นสิบเท่า...

1.เลือกแมสแฟชั่น

ถ้าคุณอยากเฟี้ยวแล้วล่ะก็ "แมสแฟชั่น" คือสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตที่สุด เพราะการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคก็ไม่จำเป็นจะต้องใส่หน้ากากอนามัยสีขาวแค่อย่างเดียว คุณสามารถใส่หน้ากากที่มีลวดลายสีสันตามที่ชอบได้ แต่หน้ากากนั้นต้องได้รับมาตรฐานและการรับรองแล้วว่าสามารถป้องกันเชื้อโรคได้จริง ๆ แค่นี้ก็ปลอดภัยพร้อมดูดี! แฟชั่นก็เป็นเกราะป้องกันในการใช้ชีวิตได้ ตามที่ Bill Cunningham เคยบอกไว้ว่า "Fashion is the armor to survive the reality of everyday life"

2. แมทช์แมสกับเสื้อผ้า

อย่าให้หน้ากากมาเป็นอุปสรรคในการแต่งตัว คิดซะว่ามันคือ Accessories นึงที่มาช่วยให้คุณคอมพลีทลุคได้อย่างลงตัว เลือกลายหรือสีของหน้ากากให้เข้ากับเสื้อผ้าและสไตล์ที่จะใส่วันนั้น เป็นการ Mix & Match ในแต่ละวันให้สนุกมากขึ้นไปอีก เช่น วันนี้ใส่สูทลายทาง ก็อาจจะเลือกแมทช์กับแมสลายทางให้เข้ากับสูท แค่นี้ก็คอมพลีทลุคพร้อมออกงาน ไม่ต้องกลัวว่าแมสจะทำให้ชุดดูดรอปอีกต่อไป

3. เซตผม

อย่างที่บอกไปว่าเวลาใส่แมส สิ่งที่คนอื่นจะเห็นมีแค่ 2 อย่างคือดวงตากับทรงผม และคุณคงเพิ่มเสน่ห์อะไรกับดวงตามากไม่ได้ถ้าไม่ได้แต่งหน้า แต่คุณสามารถเซตผมให้เป็นทรงที่ต้องการได้เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้น่ามองยิ่งขึ้น บอกเลยว่าการเซตผมไม่ได้ทำให้คุณดูดีขึ้นแค่อย่างเดียวแต่ยังทำให้ดูมีคลาสและสไตล์มากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเซตด้วยโพเมดสูตรด้านหรือเงาก็ดีกว่าการปล่อยผมลงมาปิดหน้าปิดตาแน่นอน

4. เลือก Maskcessories ให้เข้า

Maskcessories คืออุปกรณ์เสริมสำหรับหน้ากากนั่นแหละ เช่น พวกสายคล้องคอ หรือที่ปรับระดับความยาวสายต่าง ๆ บอกเลยว่ายุคนี้ไม่ได้มีแค่แมสอย่างเดียวที่มีลวดลายให้เลือกเยอะ อุปกรณ์เสริมก็เยอะแฟชั่นจัดจ้านไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นสายคล้องคอเหล็กแบบ Street Style หรือลายเรียบ ๆ เท่ ๆ ก็มีให้เลือกเพียบ เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มที่นอกจากจะช่วยให้ดูดียังช่วยป้องกันไม่ให้หน้ากากสัมผัสกับเชื้อโรคได้ง่าย ๆ จากการใส่ไว้ใต้คางหรือวางไว้บนโต๊ะอาหารอีกต่างหาก

5. เลือกหน้ากากสุดล้ำที่จะเพิ่มเลเวลความฮอตให้พุ่งกระฉูด

เมื่อหน้ากากไม่ใช่แค่หน้ากากอีกต่อไปแต่เป็นอีกหนึ่ง Gadget ที่จะช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ไปอีกขั้น คุณสามารถเลือกหน้ากากที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดไฮเทคเพื่อเพิ่มความล้ำให้ดูดีกว่าการใส่หน้ากากผ้าธรรมดาทั่วไปได้ เช่น เลือกหน้ากากที่มีหูฟังในตัว หรือมีไมค์โครโฟนไร้สายไว้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ให้ชีวิตคุณง่าย ดูทันสมัยกว่าคนอื่นไปอีกสิบเท่า

เห็นรึยังว่าเราสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยการแต่งตัวให้สนุกขึ้นได้ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมหยิบหน้ากากสุดคูลที่จะช่วยให้คุณดูดีขึ้นติดตัวไปด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่ดีหรือดูป่วยตอนใส่หน้ากากเพราะตอนนี้คนที่ไม่ยอมใส่ต่างหากที่ดูไม่ดี ป้องกันตัวเองและคนรอบข้างด้วยการใส่หน้ากากไปทุกที่ อย่าลืม!

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya
Source: THE LADDERS, GQ & MAN2MAN

---

Zoomกันชัดๆ.. ปังกว่าใครในประชุมออนไลน์ ทำยังไง?

ใครที่กำลังทำงานที่บ้าน (work from home) อยู่ แน่นอนว่าต้องมีประชุมออนไลน์แบบเปิดกล้องอยู่บ่อย ๆ หลายคนคงรู้สึกเบื่อไม่ค่อยอยากเปิดเพราะหน้าโทรม กลัวมีคนแอบแคปไปลงสตอรี่ กลัวสาว ๆ ที่ชอบเห็นแล้วตกใจอีก แต่ไม่ต้องห่วง Tough & Tumble เข้าใจทุกเรื่องกังวลของผู้ชาย วันนี้เลยจะมาเผยเคล็ดลับ "ซูมยังไงให้ปัง" ไม่ตกม้าตายประชุมหนักแค่ไหนก็ยังหล่อระเบิด

ล้างหน้าล้างตาทุกเช้า

เคยได้ยินมั้ยว่า "แค่สะอาดก็หล่อแล้ว" การล้างหน้าล้างตา อาบน้ำแปรงฟังเป็นเบสิกขั้นพื้นฐานที่คุณควรทำทุกเช้าถ้าอยากดูดี เอาคราบน้ำลายออกหน่อยก่อนเริ่มวันใหม่ ช่วยให้ดูสะอาดสะอ้านดีกว่าตื่นแล้วกดเข้าซูมเลยแน่นอน เพราะหล่อแค่ไหนก็ไม่รอดถ้าสกปรก...สเต็ปง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ เป็นการปลุกตัวเองไปในตัวด้วย

หาตำแหน่งวางคอมดี ๆ

เลือกมุมที่หันหน้ารับแสง หรือหันออกหน้าต่างจะดีกว่า เพราะมันจะทำให้หน้าดูสว่างสดใสขึ้น แต่ถ้าไม่อยากโดนแดดกลัวร้อน ก็จัดไฟไปเลยชุดใหญ่เอาให้เต็มที่ วางโคมไฟไว้ข้างคอมเยื้องไปทางด้านหลังหน่อยแค่นี้แสงก็จะตกบนหน้าทำให้หน้าสว่างมีออร่ามากขึ้นแล้ว หรือไม่ก็วางคอมไว้บนโต๊ะสีขาวให้แสงสะท้อนมาก็ยังได้ แต่ที่สำคัญสุดคือการจัดมุมกล้อง ระวังอย่าให้กล้องต่ำเสยคางเพราะเหนียงจะออก วางให้อยู่แนวเดียวกับช่วงตัวหรือสูงกว่าดีที่สุด เพราะทำให้หน้าดูเล็กเรียว จำแล้วนำไปใช้เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก

ทาครีม ดูแลผิว

ทาครีมที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเองอย่าให้ขาด เพราะมันจะช่วยให้หน้าดูไม่โทรมถ้าคุณดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ท่องไว้ในใจเลยว่า "ต้องขยันทาไม่งั้นหน้าจะแย่"

ใช้ฟิลเตอร์ใน Zoom

ถ้าเผลอปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปแล้วก็ไม่เป็นปัญหา แก้ได้ด้วย Beauty Filter ในแอพ Zoom คลิกเดียวช่วยให้หน้าเนียนขึ้นทันที แค่ติ๊ก Touch up my appearance ก็หล่อขึ้น 1 สเต็ปแบบไม่ต้องดูแลตัวเองให้วุ่นวาย ผ่านสมรภูมิมาหนักแค่ไหนก็รอด

แต่งตัวอยู่บ้านให้ดีขึ้นนิดนึง

พยายามใส่เสื้อผ้าให้ดูมีอะไรมากขึ้นหน่อย งดเสื้อเน่าหรือชุดนอนไปก่อนเพราะมันทำให้ดูไม่คูล อาจจะไม่ต้องจัดเต็มเหมือนเวลาออกไปข้างนอก แต่ก็พยายามมิกซ์แอนด์แมชให้ดูมีสไตล์มากกว่าชุดอยู่บ้านปกติจะดีกว่า

เซตผมให้เป็นทรง

บอกเลยว่าการเซตผมช่วยให้คุณหล่อขึ้นเป็นกอบเป็นกำ เพราะทรงผมสำคัญมากกกกกกกกสำหรับผู้ชาย เพราะแค่ผมดีหน้าก็ปัง เพราะงั้นใช้โพเมดเซตทุกวันก่อนกดเข้าซูมกันดีกว่า รับรองดูมีออร่าเด่นกว่าคนอื่นแน่นอน เปลี่ยนลุคเซอโทรม ๆ เป็น Working guy สายเท่ได้ง่าย ๆ แค่ปาดแล้วหวีไม่ถึง 5 นาทีเสร็จ

เล็มหนวดเคราออกบ้าง

หนวดกับผู้ชายเป็นของคู่กันแต่ก็ไม่ควรปล่อยให้มันรุงรังจนไม่น่ามอง โกนหนวดทุกวันอย่าขี้เกียจเพราะการโกนหนวดจะช่วยให้คุณดูดีขึ้น หน้าจะดูเด็ก ผิวดูสะอาด สุขภาพดี ดูดีขึ้นกว่าตอนไม่โกนเยอะ สาว ๆ เค้าคอนเฟิร์มมา

เก็บกวาดบ้าน

ไม่ก็เปลี่ยน Background ไปเลย Background ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้าไม่จัดห้องให้เป็นระเบียบ เก็บของให้เป็นที่เป็นทาง ก็เปลี่ยน Background ปิดความรกไปเลย เพราะห้องรกจะทำให้คุณดูดรอป หล่อแค่ไหนก็ไม่รอดเพราะสิ่งของแย่งซีน ดูรกรุงรังเต็มไปหมด

เห็นมั้ย...ว่าอยากดูดีไม่ใช่เรื่องยาก การทำงานอยู่บ้านก็ไม่จำเป็นต้องโทรมเสมอไป ดูแลตัวเองทุกวันให้ติดเป็นนิสัยยังไงก็เอาอยู่ ลองเอาไปปรับใช้กันดู รับรองว่าปังไม่น้อยหน้าใคร ประชุมหนักแค่ไหนก็ยังเฉียบ ยืนหนึ่ง!

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya

---

Work From Home Hair 5 ทรงผมชายมาแรงยุคโควิด ปี 2021 อยู่ที่ไหนใครๆก็ตัด

ก่อนจะลุยออกไปหาช่างตัดผมในยุค Covid 19 แบบนี้ มาทำการบ้านกันก่อนดีกว่าว่าทรงไหนกำลังมา ทรงไหนไม่ควรพลาด ทรงไหนตัดแล้วโคตรฮอต จะได้ไม่ไปนั่งงงในร้าน ทั้งหล่อและรอดจากโควิด! ลืมการตัดทรงเดิมซ้ำ ๆ เพื่อความเซฟไปก่อน เพราะวันนี้เราจะมาบอกทรงผมที่ผู้ชายทั่วโลกเค้ายืนยัน นั่งยัน นอนยันมาแล้วว่ารอดจริง หน้าสไตล์ไหนก็เอาอยู่ ตัดแล้วดูดีขึ้นล้านเท่า

1. ทรงบัซคัท (Buzz Cut)

ทรงผมแบดบอยที่สาวๆเห็นเป็นเข่าอ่อน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแพ้ทาง อย่างทรงบัซคัทที่ โต้ง ทูพี ตัดยืนหนึ่งมาหลายปีแต่ก็ไม่ดูตกเทรนด์ สาวๆคนไหนเห็นเป็นต้องกรี๊ดแย่งกันเป็นเลดี้ปราง เป็นทรงที่ใช้หวีรองตัดปัตตาเลี่ยนทั่วศีรษะตั้งแต่แบบกลางไปถึงต่ำสุด ให้ลุคสะอาด เฉียบคม แบบแบดบอย เหมาะกับสายตื่นยากที่ไม่ชอบเซ็ตผม แต่ยังรักความสะอาด ตื่นมาก็กดเข้าซูมพร้อมประชุมเลย

2. รองทรงสูง (Textured Crop)

ทรงที่มาแรงมากกกกกกหลังจาก Peaky Blinder ซีซั่น 4 ปล่อย เรียกได้ว่าเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ทั่วโลก คนแห่ไปตัดตามกันอย่างบ้าคลั่ง เป็นการตัดสั้นสุดด้านข้างและด้านหลังด้วยหัวรองตัดของปัตตาเลี่ยนเบอร์ 1 หรือ 2 เหลือด้านบนไว้ยาวๆเพื่อเซ็ตให้ดูมีวอลลุ่ม ทรงนี้ต้องเซ็ตด้วยโพเมดสูตรด้าน หรือ ดำด้านเพื่อให้ผมเป็นทรงที่อยากได้ และอยู่ได้นาน เหงื่อออกก็ไม่พังระหว่างวัน ลุคนี้เป็นลุคที่ต้องปัดผมหน้าม้าไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือปล่อยไว้เซอร์ๆด้วยการใช้โพเมดจัดให้ผมดูยุ่งๆเพื่อเพิ่มเลเยอร์และเท็กซ์เจอร์ เหมาะกับสายบอสใหญ่ หนุ่มซีอีโอ หนุ่มออฟฟิศ หรือบาริสต้าที่มีสไตล์ความชิคอยู่ในสายเลือด ชอบการเซ็ตผมแบบปังๆโชว์ความแมนทุกวันในการทำงาน

3. ทรงแอฟโฟร่แบบสั้น (Short Afro)

ทรงแอฟโฟร่สั้นให้ฟีลลิ่งนักรัก สายฮิป ที่พร้อมยิงมุขให้สาวๆหัวเราะ ยกตัวอย่าง เช่น หนุ่มบรูโน่ มาส์ หรือ ดอนัลด์ โกลเวอร์ นักธุรกิจรวยล้นฟ้าที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นเงิน บอกเลยว่าตัดทรงนี้ไปไหนในไทยก็เด่น เพราะเป็นทรงที่คนไทยไม่กล้าตัดแต่บอกเลยว่าเมืองนอกฮิตไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ไปไหนใคร ๆ ก็ตัด ไม่ได้เป็นทรงมั่วๆ หัวยุ่งๆ ที่ทำได้ง่ายๆ นะบอกก่อน ต้องไว้ผมยาวพอให้ดัดติดหนังหัวได้เท่านั้น จะหล่อทั้งทีต้องมีความพยายามกันนิดนึง

4. ทรงชอปปี้ครูว์คัต (Choppy Crew Cut)

บอกเลยว่าทรงนี้ใครตัดก็กลายเป็นเน็ตไอดอลเมกา หล่ออินเตอร์ไม่ไหว ยุคไหนก็ไม่มีเอาท์ ยืนยันด้วยเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ทั่วทุกมุมโลกเพราะเป็นทรงที่ เดวิด เบคแฮม และคริส อีแวนส์ ตัดตลอดดดด… บอกช่างเลยว่าตัดด้านหลังกับด้านข้างครึ่งนิ้ว ไล่ความยาวขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องเกิน 2 นิ้ว จากนั้นค่อยตัดข้างบนแบบไม่ต้องสั้นมาก หรือจะเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยการใช้โพเมดสูตรเงาในวันที่อยากหล่อจนสาว ๆ ละลาย

5. ทรงสลิคแบค (Slick Back)

เป็นทรงกันตายที่อยากให้ทุกคนลองดูสักครั้ง หล่อง่าย ๆ แค่หยิบโพเมดขึ้นมาปาดทีเดียวอยู่ หวีเรียบๆด้วยหวีเหล็กที่หนักพอประมาณก็จบ โคตรง่าย ไม่ต้องมีหน้าขั้นเทพก็เกิดได้ด้วยทรงนี้ เป็นการตัดผมข้าง ๆ สั้น เหลือด้านบนไว้ให้ยาวที่สุด แล้วไล่ระดับความสั้นลงมาเรื่อยๆ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึง แบรด พิตต์ จัสติน บีเบอร์ และจัสติน ทิมเบอร์เลค เพราะเป็นทรงประจำตัวของพวกเค้าเหล้านั้น เอาอยู่ทุกสถานการณ์ จะ WFH ออกงาน หรือออกเดทก็ปัง หล่อสะกด

---

Tough & Tumble

Written by: Nat Saranya

Source: apetogentleman.com

---

งานมือเสยต้องมา.. กับทรง Messy Pompadour ใน6ขั้นตอน!

ฮิตติดลมบน.. กับทรง"ปอมปาดอร์" ทรงผมวินเทจชายย้อนยุค ที่ได้เซ้นส์ของความลู่เรียบเนี๊ยบด้านหลัง ผสมผสานกับการมีกระบัง(Pomp)ตั้งหน่อยๆด้านหน้า ..วันนี้ทัฟแอนด์ทัมเบิลจะพาไปดูเทคนิคการเซตทรง "เมสซี่ปอมปาดอร์" แบบยุ่งๆโดยใช้แค่มือ หวีไม่ต้อง.. จากฝีมือJordan O'Brian บล๊อคเกอร์ทรงผมชายผู้โด่งดัง ไปดูกัน!

เริ่มต้นจากผมหมาดๆเกือบแห้ง ยุ่งเหยิงรุ่งริ่งแบบนี้ล่ะ

1| Pre-style ด้วยน้ำมัน

ขั้นตอนแรกจอร์แดนใช้ Argan Oil (น้ำมันสกัดลูกไม้จากโมร๊อคโค) เป็นPre-stylingชะโลมให้ทั่วศรีษะ เพื่อที่จะช่วยปรับสภาพผมให้เชื่องมือขึ้น และยังป้องความร้อน(Heat-protection) ในกรณีที่คุณอยากจะไดร์ผมให้มีวอลุ่มขึ้นหน่อย ก่อนเริ่มเซตในลำดับถัดไป

เซรั่ม Argan Oil ของ Organix

2| ควักโพเมดซัก 2จก

ถึงเวลาเริ่มเซต หลังจากปรับสภาพเส้นผมในขั้นตอนแรก เลือกใช้ผลิตภัณฑ์โพเมด สูตรMedium Hold พลังปานกลาง เพื่อให้ได้ความโปร่ง มีวอลุ่มสูงๆด้านบน ดูเป็นธรรมชาติ.. ไม่ดูเซตหนักหัวเกินไป.. ควักโพเมดจากกระปุก 2จก ถูเข้าที่ฝ่ามือ ให้พออุ่นๆ

ทัฟแอนด์ทัมเบิล โพเมด01 สูตรด้าน Medium Hold

3| ขยี้ทิศทางเริ่มจากด้านหลัง

เริ่มApply ขยี้โพเมดให้ทั่วศรีษะ เคล็บลับคือ ทิศทางต้องเริ่มจากด้านหลังไปด้านหน้า.. เพราะการที่คุณเริ่มใส่โพเมดจากด้านหน้าไปก่อน จะทำให้กระจายตัวไปสู่ส่วนอื่นๆไม่เท่ากันทั้งหัว มีโอกาสที่ตัวโพเมดจะจับตัวเป็นก้อนอยู่เฉพาะด้านหน้า และผมด้านหลังที่คุณไม่เห็น จะไม่ได้รับความสำคัญ.. อีกอย่างพยายามใส่โพเมดให้ถึงโคนผม จรดปลาย เพราะนั่นจะเป็นตัวแปร ที่ทำให้ผมคุณอยู่ทรงทั้งวันได้ยาวนานขึ้น

4| เน้นเยอะๆกับผมด้านข้าง

การไว้ผมวินเทจด้านข้างไถเรียบแบบนี้ สำคัญมาก ที่คุณควรจะเซตเน้นตรงรอยต่อระหว่างผมช่วงบนยาวๆ กับผมด้านข้างที่สั้นไล่ลำดับลงมา เพื่อจะแน่ใจว่าผมข้างบนคุณจะไม่เป๋ตกลงมาด้านข้าง เพราะนั่นจะทำให้เซตไม่อยู่ ..เพราะฉะนั้นอัดโพเมดเพิ่มตรงนั้นอีกซักหน่อย เพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อย

5| กางนิ้วให้ถ่าง แล้วสางซะ

จากนั้นกางนิ้วทั้ง4 (ยกเว้นนิ้วโป้ง) คุณออกถ่างๆ แล้วรูดไปด้านหลังจนจรดปลาย เน้นว่าต้องรูดจนสุดเส้นผม ทำประหนึ่งว่ามือนั้นเป็นหวีของคุณ.. ไล่ทำหลายๆกระจุก ให้เกิดtextureเป็นริ้วห่างๆบนเส้นผม ..การทำfinger-combing แบบนี้ต่างจากการเสยด้วยมือลวกๆ เพราะเราต้องการเกลียวผมที่ชัดเจน แต่ไม่เรียบร้อยเท่ากับการใช้หวี ขณะที่การใช้มือเสยปกติจะทำให้ผมยุ่งเป็นก้อนมากกว่า

6| ลู่มาข้างหลังให้หมด

ใส่โพเมดเพิ่มในมืออีกนิด แล้วลูบเบาๆ เก็บความเรียบร้อยของผมคุณทั้งหมดไปด้านหลัง เป็นการเก็บเนี๊ยบตอนจบ 

เป็นอันเสร็จสรรพ! Messy Pompadour 

ด้านหน้า Pompยกสูง เกลียวผมดูไม่เป็นระเบียบได้อีก

**ทรงนี้เหมาะกับผมที่ตัดมาเข้าทรงหน่อย เพราะถ้าผมด้านข้างคุณยาว เซตยังงัยก็ไม่เป็นทรงนี้ ..ว่าแล้วก็ไปเล็ม และลองกันเลย!

---

Tough & Tumble

Written by: Lory Pongpol

Source: Jordan O'Brien

---

หยักศกนิดๆ ขี้เกียจใช้หวี?? ต้องทรงนี้เลย "Fringe Quiff"

ถ้าคุณเป็นหนุ่มผมไม่ตรงมาก จะหยิกก็ไม่หยิก หวีก็ไม่ชอบใช้ ..นี่เลยเทคนิค ที่จะเซตผมวินเทจตั้งเท่ๆ แบบFringe Quiff ที่ยุ่งเหยิงนิด ที่Vloggerชื่อดังจากนิวยอร์ค อย่างทิม ไบรอัน ใช้ทำผมอยู่ทุกวัน.. ลองไปดูกันว่าเค้าเซตง่ายๆยังงัย..

ก่อนทำ หลังสระผมหยอยๆ

1) ไดร์แบบมีDirectionที่ชัดเจน

วิธีที่ชายไทยหลายคนไดร์ผมคือ เป่าแบบไม่มีทิศทาง แค่แบบเอาให้แห้งก็พอ.. แต่ที่ทิม ไบรอัน แนะนำคือ คุณควรจะต้องวางแผน และแบ่งผมแต่ละส่วนบนหัวคุณ เป่าไปที่ละหย่อมแบบมีทิศทางที่ชัดเจน ..อย่างเช่นผมปอยด้านหน้า ถ้าคุณต้องการยกขึ้นต้องจ่อเข้าไปที่โคนผมแบบ ประชิด แล้วไดร์ขึ้น90องศา.. ไม่มั่วเด็ดขาด

ไอเท็มแนะนำ: ไดร์เป่าผม จากDyson

2) หนีบผมที่รั้งหัวขึ้น เพื่อให้เป็นเกลียวขึ้นสวยงาม

เทคนิคนี้ไม่ได้จำเป็นมาก แต่สำหรับคนที่เส้นผมหยักศกหน่อย ไม่ค่อยเชื่องมือ คุณสามารถใช้เครื่องหนีบผม ความร้อนระดับกลาง หนีบผมด้านหน้าทิศทางยกขึ้น เคล็ดลับคือให้หนีบเฉพาะส่วนกลางเส้นผม (อย่าหนีบโคนและปลาย เพราะจะทำให้ผมคุณแบบลีบ ดูไม่เป็นธรรมชาติซักนิด) บิดข้อมือหน่อยตอนหนีบ เพื่อให้ได้ผมโค้งขึ้นที่สวยงาม..

ที่หนีบผม เซรามิค จาก CHI Professional

3) Pre-stylingด้วยผง ช่วยเรื่องVolume

อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวของทิมเค้า ด้วยการใช้Hairstyling Powder ที่ลักษณะคล้ายแป้ง หยอดไปให้ทั่วเส้นผม.. แล้วขยี้เบาๆเพื่อเรียกVolume ก่อนการเซตผมจริงในลำดับถัดไป

Styling Powder จากแบรนด์ Salon Guy

4) เสยขึ้นรัวๆ ด้วยโพเมดสูตรด้าน

เลือกใช้โพเมดสูตรด้าน ที่ให้วอลุ่มเยอะๆด้านบน ควักจากกระปุกด้วยนิ้ว ซัก2สกู๊ป ..ละเลงให้ทั่วศรีษะ แล้วเสยผมด้านหน้าขึ้นรัวๆด้วยมือ ผมด้านข้างแบ่งร่องแสกเบาๆ มีแตกแถวบ้าง ให้ดูเป็นธรรมชาติ

ทัฟแอนด์ทัมเบิล โพเมด01 สูตรด้าน.. สายมือเสย

5) เก็บงานด้วยHair Spray

เซตผมเข้าที่เข้าทางแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือเก็บงานให้คงอยู่ยาวนานบนหัวคุณ สเปรย์แต่งผมเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด ฉีดเบาๆให้coverผมคุณทุกมุม ..ไม่จำเป็นต้องเลือกสเปรย์ที่พลังHoldสูงเสมอไป เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดขุยขาวบนหัวคุณ ..หากต้องการลุ๊คสบายๆ สามารถเสยไปมาระหว่างวันได้ ใช้ระเับMedium Holdก็พอ

สเปรย์ฉีดผม Taft จากสว๊าซคอฟฟ์

เป็นอันหล่อ เสร็จกิจ!

 เอาเทคนิคของทิม ไบรอันไปใช้กันดู แล้วบอกให้เรารู้ว่าได้ผลกับคุณมั้ย.. ขอพลังหล่อ จงอยู่กับทุกท่าน!

---

Tough & Tumble

Written by:

Lory Pongpol

Source:

Tim Bryan

---

ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ! ..กับ 4 เคล็ดลับเซตผมวินเทจ

งานเซตผมทุกเช้า สำหรับหนุ่มๆอย่างเรา ใครๆก็อยากหล่อแบบไม่เสียเวลาเยอะถูกมะ นี่เลย 4เคล็ดลับวิธีเซ็ตผมวินเทจ ที่ใครๆก็ไม่รู้ จากกูรูชื่อดัง อย่าง โจ บลูมาน "ทัฟแอนด์ทัมเบิล" รวบรวมเอามาฝาก มีไรมั่งไปดูกัน..

 

เทคนิค1 : ไดร์ก้มหัว90องศา

เมื่อต้องการวอลุ่มผมด้านบนเยอะๆ เทคนิคนี้ที่คุณต้องลอง แค่ก้มหัวทำ90องศากับพื้น ใช้ไดร์เป่าผมเสยขึ้นจากด้านล่าง เริ่มตั้งแต่ผมเปียกชุ่ม จนผมแห้งสนิท ..คุณจะพบว่าผมจะเพิ่มวอลุ่ม มีน้ำหนักขึ้นอย่างมหาศาล.. ระวังหน้ามืดด้วยล่ะ ถ้าก้มน้าน นานน

เทคนิค2 : ลมเย็นเพื่อสุภาพที่ดีกว่า

เป็นที่รู้กันว่าลมร้อนจากไดร์เป่าผม จะช่วยปรับสภาพเส้นผมแข็งๆให้เชื่องขึ้นได้ แต่นำมาซึ่งการทำลายสภาพเส้นผมพอสมควร วิธีที่เราแนะนำบ่อยครั้งคือ การใช้ลมเย็นตบท้ายซัก30วินาที หลังการไดร์ด้วยลมร้อน เพราะมันจะช่วยคงสภาพเส้นผมให้คุณอยู่ทรงได้ดีตลอดวันเลยทีเดียว

เทคนิค3 : เก็บปลายผมที่ชี้ออก..อย่าฝืน ใช้ความนุ่มนวลจัดการ

หลายคนพอเซตผมวินเทจเสร็จเรียบร้อย แต่ดันเจอจงอยผมที่ชี้หลุดจากทรง วิธีที่ใช้ส่วนใหญ่คือใช้โพเมดสูตรStrong Hold หรือ พวกแว๊กซ์ที่มีพลังสูงในการกดทับผมให้เข้าลู่เข้ารอย แต่ความเป็นจริงแล้ววิธีนั้นดันทำให้ผมที่ยื่นยิ่งแข็งขึ้นซิครับ กดเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเด้งออก.. วิธีที่แท้จริงคือใช้โพเมดสูตรMedium Hold หรือ ผลิตภัณฑ์แต่งผมเบาๆ เช่นพวกHair Cream ประคบแล้วทำให้ปอยผมนั้นๆอ่อนตัวลง และหวีเข้าทรงซะ เป็นอันเสร็จสรรพ

เทคนิค4 : ที่โกนหนวดไฟฟ้า ใช้เล็มผมได้บ่อยๆ

หลายบ้านไม่มีแบตตาเลี่ยน (หรือจะเรียกปัตตาเลี่ยน ก็ตามถนัด) อุปกรณ์ที่ใช้แทนได้คือมีดโกนหนวดไฟฟ้า คุณสามารถปรับแต่งทรงผมด้านข้าง บริเวณจอน และปลายผมรอบๆหู โดยไถออกให้รับกับรูปหู แค่นี้ทรงผมคุณโดยรวม ก็จะดูดี ไม่รก โดยไม่ต้องไปที่ร้านตัดผม ..ไว้รอให้ยาวรุงรัง ค่อยไปทีเดียว เซฟสตางค์ แถมไม่ต้องเด๋อ เพราะตัดผมบ่อยๆ

---

Tough & Tumble

Written by:

Lory Pongpol

Source:

Blumaan

---

แปลงร่างซะหน่อย.. จากหยิกหยอย กลายเป็นทรงผมQuiffตั้งตรง !

คำถามที่ ทัฟแอนด์ทัมเบิล ได้ยินกันบ่อย แทบจะบ่อยสุดกันเลย คือ จะเซตผมยังงัยสำหรับผู้ชายผมหยักศก ออกไปทางหยิก ให้ดูเป็นทรงผมวินเทจแบบเหยียดตรง คำตอบคือ นอกจากผลิตภัณฑ์โพเมดที่ไว้เซตผมคุณแล้ว ยังต้องมีวิธีการ และเทคนิคเพิ่มเติมซะหน่อย ใช้เวลาซัก5นาทีก่อนออกจากบ้าน ก็หล่อเปลี่ยนลุคได้ เป็นยังงัย ไปดูกัน..

ก่อนทำ หยิกได้ใจ..

1| ฉีดสเปรย์กันผมเสียก่อนเริ่ม

อุปกรณ์: สเปรย์กันความร้อน TreSemme ถ้าไม่มีใช้โพเมดชะโลมเบาๆแทน

เนื่องจากขั้นตอนการทำให้ผมคุณตรงขึ้น ต้องใช้กรรมวิธีที่ผ่านความร้อนโหดๆทั้งนั้น เพราะฉะนั้นทางที่ดี ฉีดพวกสเปรย์Heat-Protection ที่ช่วยป้องกันผมเสีย ก่อนเริ่ม จะช่วยเยียวยาผมคุณได้ดี.. ถนอมเส้นผมกันบ้างไรบ้าง

หลังจากสระผม เช็ดให้แห้ง ก็จัดการฉีดง่ายๆให้ทั่วศรีษะ 

2| เป่าเพื่อปรับสภาพ

อุปกรณ์: ไดร์เป่าผม เลือกแบบมีลมร้อน-เย็น

ขั้นตอนต่อมา ใช้แปรงหรือหวีที่คุณมีช้อนผมที่เปียกหมาดๆของคุณยกขึ้น เป่าด้วยไดร์เป่าผมความร้อนสูง ไปในทิศทางย้อนหลัง สามารถเลือกเอียงไปซ้ายขวาได้ตามสะดวก..

หลังจากใช้ลมร้อนแล้ว เมื่อผมคุณเริ่มแห้ง โคนผมเริ่มตั้งตรง ให้เปลี่ยนเป็นลมเย็นซะ แล้วเป่าในทิศทางเดิมราวๆ20วินาที เพราะลมเย็นจะช่วยปรับให้ผมคงสภาพเดิมได้ดีขึ้น

3| ตรงแน่ แค่มีเครื่องหนีบผม

อุปกรณ์: เครื่องหนีบผม (ยืมแฟนเอาถ้าไม่ซื้อเอง)

ขั้นตอนที่3 อุปกรณ์สำคัญเครื่องหนีบผมไฟฟ้า แม้ว่าผู้ชายหลายคนไม่ค่อยชินกับมัน แต่วิธีใช้นั้นค่อนข้างเรียบง่าย ตั้งอุณภูมิให้สูง หนีบผมคุณไปด้านหลัง บิดข้อมือเบาให้ผมโค้งลงเป็นธรรมชาติ ..เทคนิคสำคัญคือ ให้เริ่มหนีบจากกลางความยาวเส้นผม จรดปลายผมเท่านั้น ไม่ต้องเริ่มจากโคน.. ซึ่งจะช่วยให้ผมคุณไม่ดูตรงเกินงาม มีวอลุ่ม ไม่เรียบแปล้แบบคนพึ่งยืดผม

4| ได้เวลาเซตกระบัง

อุปกรณ์: โพเมด03 แบล๊คลาว่า จาก ทัฟแอนด์ทัมเบิล

สุดท้าย.. เมื่อผมคุณเริ่มตรง อย่าทิ้งจังหวะนาน ตอนเส้นผมอุ่นๆนี่ล่ะ รีบใช้โพเมดแต่งผม ควักออกจากกระปุกซัก2ที ขยี้ที่มือ แล้วบรรจงละเลงให้ทั่วศรีษะ โดยใช้นิ้วกางออกห่างๆ และเสยทิศทางไปด้านหลัง.. ด้านหน้ายกข้างให้เป็นกระบังเท่ๆ ไม่ต้องเนี๊ยบมาก

เป็นอันเสร็จสรรพ ผมตั้งกระบังQuiffตรงๆ!

ลองไปทำกันดูง่ายๆที่บ้าน ดูคลิปวิธีทำเต็มคลิ้กที่นี่เลย

---

Written by:

Lory Pongpol

Source:

Jake Daniels

---

ปีหน้า..ข้าหล่อสุด!! 7สไตล์ 14ทรงผมชาย แห่งปี 2016 โดยทัฟแอนด์ทัมเบิล

ถึงสิ้นปีทีไร มักจะต้องมีการฟันธงเทรนด์ทรงผมใหม่ๆในปีถัดไป จากสำนักต่างๆ.. บ้างก็แม่น บางอันก็มั่วบ้าง.. เพื่อไม่ให้สับสน กูรูด้านสไตล์ผมชายอย่าง ทัฟแอนด์ทัมเบิล แบรนด์ผลิตแต่งผมโพเมดจาก บรู๊คลิน, นิวยอร์ค.. รวบรวม "7สไตล์ 14ทรงผมชายแห่งปี 2016" พร้อมวิธีตัด มาให้ชัดๆตรงนี้ ไม่ต้องไปเสริชหาที่ไหนอีก ..แค่จิ้มรูปให้ช่างตัดตามรายละเอียดที่ระบุไว้ แล้วหล่อล้ำกว่าใครในปี2016 ไปเลยดูกัน..

1. FLAT-TOP UNDERCUT

"แฟลตท็อป อันเดอร์คัท" อีกทรงผมที่ได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นยุคสงคราม ที่ทหารอเมริกา นิยมตัดผมด้านบนให้เป็นลานบิน ..เซตง่ายๆด้วยหวี+โพเมดสูตร Strong Hold เคล็ดลับอีกอย่างคือไม่ต้องเก็บผมให้เนี๊ยบมาก.. ใช้มือเสยระหว่างวัน จะดูเท่ดิบเถื่อน เหมือนแบรด พิตต์ จากเรื่องFury ยังงัยอย่างงั้น.. ใครอยากลองเปลี่ยนสไตล์ผม เป็นทหารวินเทจ.. ก็แคปรูปไว้ ไปให้ช่างตัดเลย!

2. SIDE-SWEPT UNDERCUT

คาแรคเตอร์คนเรานี่สำคัญนะคับ.. นี่คืออีกทรงผม ที่สร้างเอกลักษณ์ให้คุณแบบไม่ซ้ำใคร "ไซด์-สวีพ อันเดอร์คัท" รายละเอียดการตัดใกล้เคียงอันเดอร์คัทปกติมาก แตกต่างที่ดีเทลและการเซตผม แทนที่เสยไปด้านหลัง เราใช้หวี+โพเมดปาดไปด้านข้างแทน แค่นี้ก็แหล่มแจ่มแมว.. เบ้าหน้าใครก็เบ้าหน้ามัน ใครคิดว่าเหมาะกับชั้น.. ไปให้ช่างตัดเลย! #StyleLikeYouMeanIt

---

3. DISCONNECTED QUIFF

ปลายเดือนแล้ว หนุ่มๆที่อยากปรับลุคทรงผมใหม่.. แบบไม่เนี๊ยบเว่อ และไม่เซอร์จนเกินไป จัดไป ทรงนี้เลยคับ "เดอะ ดิสคอนเนคทิด ควิฟฟ์" ทรงผมแมนโค้ดๆ สไตล์ละม้ายกัปตันเจอร์ราด ไว้ด้านบนให้ยาว ไถไล่ด้านข้าง แล้วใช้แค่หวีปาด + โพเมดสูตรด้าน แค่นี้ก็เท่ทุกท่วงท่า

4. HYPER MASSIVE QUIFF

เรียบๆเนี๊ยบๆ..มันไม่ใช่? ก็จัดทรงนี้ไป.. "ไฮเปอร์แมสซีฟ ควิฟฟ์" อีกทรงเท่แบบหนุ่มหัวสูง ที่เน้นการเซตกระบัง(Quiff)ตั้งสูงพิเศษ ด้านข้างไถไล่สูง.. เซตง่ายๆด้วย โพเมดสูตรด้าน+มือขยี้หลวมๆ แล้วเสยตามทิศทางในรูป ..ไดร์ผม+สเปรย์ฉีดอาจใช้เป็นอ๊อปชั่นเสริม เพื่อให้ผมตั้งเด่เท่ สะท้านลมฝนไปทั้งวัน

---

5. BALD-SIDES SLICKED BACK

ไม่ขัดขาใคร แต่ทรงมันขัดใจแม่..!! "บาลด์ไซด์ สลิกแบค" ทรงผมเฟี้ยวเงาะ ที่ได้แรงบัลดาลใจจากทรงผมชาวไวกิ้ง ที่เอกลักษณ์คือการไถผมด้านข้าง และส่วนท้ายด้านหลังให้ขาวหมด (เหมือนจะง่าย..แต่เก็บให้เรียบจริงๆ ต้องใช้ฝีมือบรรเลงมีดโกน อย่างละเอียดทีเดียว..) ด้านบนต้องยาว10-15cm พอให้หวีเสยมาข้างหลังได้ หวีด้วยหวีซี่ห่าง และใช้มือ+โพเมดสูตรเงา ลูบตามไปเลย..

6. THE 90's SLICKED BACK

ใครว่าโพเมดใช้กับผมยาวไม่ได้??... ทรงวันนี้สำหรับคนชอบไว้ผมยาวโดยเฉพาะ.. "เดอะไนน์ตี้ สลิคแบค" ทรงที่ทำให้เรานึกถึงดาราคูลๆอย่าง เควิน เบค่อน, อีธาน ฮอร์ค ในช่วงยุค90's.. ช่างตัดผมใช้กรรไกรเป็นหลัก แบตตาเลี่ยนไว้ไถเก็บช่วงล่างเท่านั้น วิธีเซตก็ใชโพเมดสูตรเงา ลูบไปตามผม แล้วหวีตามง่ายๆ ก็เท่ได้ ไม่ซ้ำใคร

---

7. MESSY CURLY FADE

ทฤษฎีทรงผมวันนี้ เอาใจคนที่ผมหยักศก หยิกน้อย ไปจนถึงหยิกหยอย.. กับ "เมสซี่เคอร์ลี่เฟด" ทรงผมที่ ใช้ความได้เปรียบของธรรมชาติผมดัดโค้ง แค่เล็มด้านข้าง-ด้านหลังให้เข้าที่ ปล่อยผมด้านบนให้ยาว เซตด้วยโพเมดสูตรด้าน รับรองเท่ชะมัด...!! เป็นอีกทรง ที่ทำให้หัวดูมีวอร์ลุ่ม น่าสนใจ...ใครเบื่อๆผมตรง ก็เซฟรูป ให้ช่างดัด และตัดตามได้เลยครับ..

8. ALTERNATIVE DISHEVELED UNDERCUT

ผมสั้นไม่มีสิทธิ.. กำลังกลับมาฮิต กับทรงไอ้หนุ่มผมยาว ขาร๊อค .."ดิ อัลเทอเนทีฟ ดิเชฟเวล อันเดอร์คัท" กร้อนผมด้านข้างให้เรียบ.. ผมก้อนบนไว้ให้ยาวซัก 20cm กำลังพองาม ใช้มือเสยเซตกับ โพเมดสูตรMedium หรือ Light Hold เพื่อลุคที่ดูมีนน.เป็นธรรมชาติ.. ชะโลมให้ทั่วผม แล้วปล่อยตกด้านข้างเฉียง ปิดหน้าเล็กน้อย.. เท่แบบอัลเท้อร์ อัลเทอร์!!

---

9. HALF LINE-UP POMPADOUR

ช้อปปิ้งยังมีครึ่งราคา ประสาอะไรกับทรงผม.."ฮาล์ฟไลน์อัพ ปอมปาดอร์" ทรงผมปอมปาดอร์แนวใหม่ มาแค่ครึ่งเดียว!! หักดิบด้วยการกันไลน์อัพผม เหลือแค่ครึ่งบน ด้านล่างไถขาวถึงหนังศรีษะ เก็บงานด้วยมีดโกนคมๆ.. เหมาะมากสำหรับแฟนผมวินเทจ ที่อยากมีดีเทลไม่โหล ไม่ซ้ำใคร.. หล่อ..เหงื่อไม่ไหลมากวนใจที่ร่องหูอีกต่อไป

10. SKIN FADE POMPADOUR

จดๆจ้องๆมาหลายที อาจจะเป็นทรงนี้ที่รอคอย.. "สกินเฟด ปอมปาดอร์" ทรงผมที่ประยุกต์มาจาก คลาสสิคปอมปาดอร์ ต่างกันที่รายละเอียด ของการไถไล่ถึงหนังศรีษะ และมีการเก็บความเรียบร้อยด้วยมีดโกนเยอะหน่อย ในส่วนของปอม(กระบัง) ด้านหน้าใช้โพเมด+หวีค่อยๆปาดขึ้นสูง..ทรงนี้ยิ่งถ้าใครมีเคราหน่อย เท่ไม่ใช่ย่อยเลยนะ

---

11. MARCO REUS's SIDECUT

อีกหนึ่งทรงผม สำหรับคนเบื่อสีผมธรรมชาติบนหัว.. "มาร์โก้ รอยส์ ไซด์คัท" ทรงผมสุดเฟี้ยว ที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากปีกจรวดสุดเท่ชาวเยอรมัน แค่ย้อมสีผมด้านบน เป็นสีอ่อนตามความพอใจ.. หั่นผมด้านข้างออก ไดร์ก่อน แล้วเซตด้วยมือ+โพเมด เสยเบาๆ ไม่ต้องเนี๊ยบ.. แค่นี้ทรงผมกระชากวิญญาณ อยู่บนศีรษะคุณเรียบร้อย..

12. GOATEE SIDECUT

เครามา เบ้าหน้าไหนๆก็หล่อได้.. "เดอะโก๊ทตี้ ไซด์คัท" ..ทรงผมสุดฮิปที่เห็นได้ทั่วไป ตามแหล่งฮิปสเตอร์อย่างบรู๊คลิน ..ผสานความเนี๊ยบของผมไซด์คัท เข้ากับความเซอร์รุงรังจากเคราที่ไว้มา 5 เดือน.. ได้คาแรคเตอร์ของหนุ่มเซอร์ผู้ดูแลตัวเอง ทำง่ายๆแค่ ผมด้านข้างหั่นเรียบ ก้อนผมด้านบนเหลือไว้ยาวราวๆ15ซม. เซตด้วยโพเมดสูตรเงา หวีเบาๆให้สุดเส้นหลัง(หัว).. หล่อแบบอินเทรนด์งี้ แด่ชายไทยผู้มีเคราโดยเฉพาะ..

---

13. UNDERCUT MAN BUN

มัดใจสาวให้อยู่หมัด ด้วยทรงผม "อันเดอร์คัท แมนบัน" หรือเรียกอีกชื่อว่า Top Knot.. เป็นทรงรวบผมแบบหนุ่มโรแมนติก ที่ผสมผสานกับการไถด้านข้างUndercut สไตล์หนุ่มพั๊งค์.. กลายเป็นส่วนผสมที่เรียกว่า โคดดลงตัว..!!! เซตง่ายๆ แค่ใช้โพเมดสูตรด้านปาดก็เท่แล้ว..

14. GOATEE TOP KNOT

อย่าลองทรงนี้ ถ้าใครป๊อด.. "เดอะโกทตี้ ท๊อปน๊อต" ทรงผมสุดซ่า เหมือนยากูซ่าญี่ปุ่นมาเอง ทรงที่แสดงออกถึงความมั่นใจเต็มปรี่ ..ไว้ผมที่ด้านบนให้ยาว ยิ่งยาวยิ่งดี กล้อนผมด้านข้างให้เรียบ ไม่ไถไล่นำ้หนัก.. ชะโลมด้วยโพเมดสูตรด้าน หวีไปจนสุดโหนกศรีษะ แล้วมัดให้แน่น.. ถ้ามีเคราเฟริ้ม ถือเป็นโบนัสความหล่อเพิ่มเติม.. ได้ทั้งเนี๊ยบ และความดุดันแบบผู้ชายทั้งแท่งแบบนี้ ..อยากลองจัดซักที แคปรูปไว้ ไปให้ช่างรู้ใจตัดเลอ!

---

Written by:

Lory Pongpol

Source:

Google Images

**ทุกพิกเซลรูปภาพ และตัวหนังสือทุกตัวอักษร เป็นกรรมสิทธิโดยตรงของ ทัฟแอนด์ทัมเบิล มีเจตนาหลักเพื่อให้ผู้ความรู้และแนวทางกับผู้อ่านทุกคน ..ห้ามนำไปทำการผลิตเป็นสื่อซ้ำ, คัดลอก-หยิบใช้ เพื่อลงตีพิมพ์เพื่อจุดประสงค์ใดๆก็ตาม โดยไม่ได้รับการอนุญาติอย่างเป็นลายลักษณ์อัษรจาก ทางทีมงานทัฟแอนด์ทัมเบิล ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม..

---

ถูกระเบียบวินเทจ.. ใช้โพเมด เซตผมอย่างถูกวิธี ใน6ขั้นตอน

ทรงผมวินเทจชายไทยที่กำลังนิยมอยู่ในขณะนี้ ถูกเซตด้วยผลิตภัณฑ์แต่งผมอย่าง"โพเมด".. บางคนก็เซตพอเป็นบ้าง บางคนก็จำภาพดาราคนโปรดมาลองหวีตามดูงูๆปลาๆมั่งล่ะ วันนี้.. ทัฟแอนด์ทัมเบิล ขอนำเสนอตำราการเซตผมวินเทจ(Pompadour) แบบถูกตามหลักการสากลง่ายๆ 6ขั้นตอน.. โดยอภิมหากูรูโพเมดโลกอย่าง เดอะพอมพ์ THE POMP.. เลื่อนไปชมด้านล่างเลย!

---

1| สกู๊ป หรือ ตักโพเมดขึ้นมา

ขั้นแรกของการเซตผม แน่นอน..คือเปิดฝาโพเมดออกมา แล้วควักซิฮะรอไร.. เทคนิคง่ายๆให้คุณควักโพเมดออกมาอย่างโปร ใช้นิ้วชี้ หรือ นิ้วกลาง จิ้มลงไปในกระปุกค้างไว้เฉยๆ ใช้มือข้างที่ถือก้นกระปุกไว้บิดหมุนกระปุกแทน จะได้สกู๊ปโพเมดติดนิ้วมาแบบสวยงาม (ขนาดราวๆครึ่งข้อนางก้อย).. แทนที่จะใช้นิ้วกวักออกมาจากกระปุกดื้อๆ ซึ่งทำให้เนื้อโพเมดที่เหลืออยู่ไม่งามตา ยังทำให้กะปริมาณที่จะใช้แต่ละครั้ง ไม่เท่ากันด้วย.. โดยปกติการเซตหนึ่งครั้ง จะใช้ประมาณ2-3สกู๊ป แล้วแต่ปริมาณเส้นผมมากน้อย ของผู้ใช้แต่ละคน

---

2| ถูให้ไวที่ฝ่ามือ

ขั้นตอนที่สอง เอาโพเมดที่ควักออกมา ถูเข้าด้วยกันด้วยฝ่ามืออรหันต์ 2ข้างประกบ ถูด้วยความเร็ว พอให้รู้สึกว่าโพเมดกระจายที่ฝ่ามืออย่าวทั่วถึง และมีความร้อนหน่อยๆ.. เป็นอันใช้ได้ 

---

3| ละเลงให้ทั่วทุกเส้นผม

โพเมดอุ่นๆได้ที่แล้ว ก็จัดการใส่ขยี้ลงที่ผมเลย.. ตามหลักแล้วลักษณะผมที่เหมาะแก่การเซตที่สุด คือผมหมาดๆ เหมือนสระผมเสร็จแล้วทิ้งไว้ 5-10นาที ไม่ถึงกะเปียกชุ่มไรงั้น.. หรือ สามารถใช้น้ำช่วยพรมให้ความชุ่มชื่นกับผมแห้งๆ ก่อนใส่โพเมดที่ผม.. ให้มั่นใจว่าโดนเส้นผมทั่วถึงที่สุด.. หากต้องการเซตแบบผมวินเทจไม่เรียบแปล้ ปอมตั้งสูง งดใส่โพเมดลงที่โคนผมโดยตรง

---

4| ใช้หวีเสยผมทั้งหมดไปด้านหลัง

เสยผมคุณที่อุดมด้วยโพเมดแล้วไปด้านหลังให้หมด แบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง.. เลือกใช้หวีซี่ห่างหน่อย จะทำงานได้ง่ายยิ่งนัก

---

5| แบ่งแสก..ให้เป๊ะ

นี่คือขึ้นตอนรายละเอียดของการเซตผมวินเทจ ที่หลายคนมองข้ามไป การแบ่งร่องแสกให้ได้เส้นเป๊ะๆ จะทำให้ภาพรวมทรงผมคุณดูเพอร์เฟคกว่าชาวบ้าน.. เรียกได้ว่าเป็นเส้นบางๆกั้นระหว่าง มือเซตสมัครเล่น และมือโปรเลยทีเดียว.. มือโปรส่วนใหญ่ใช้ก้านหวี (ด้านตูด) ปลายแหลม แทงเข้าไปที่ตำแหน่งผมที่ต้องการทำแสก แล้วแบ่งผมออกเป็นซ้ายขวาอย่างปราณีต..

---

6| ยกปอมสูง-ต่ำ ตามความชอบ

ยกปอม(Pomp) หรือ กระบังด้านหน้าของผมวินเทจ.. ขึ้นด้วยการใช้หวีซี่ละเอียดหวีขึ้นเร็วๆ มืออีกข้างประคองด้านบน ที่ความสูงที่อยากให้กระบังตั้งขึ้น.. ความสูงของปอมเป็นตัวบ่งบอกสไตล์การเซตได้ดีที่สุด ควรคำนวนให้เหมาะกับรูปหน้าตัวเอง.. ชายเอเชียส่วนใหญ่ หรือ หนุ่มหน้าผากโหนก การทำปอมยกสูงจะทำให้รูปหน้าดูมีสันคมมากขึ้น.. เป็นอันเสร็จขั้นตอน

ภาพก่อน-หลังเซตผม ของTHE POMP กูรูวงการโพเมดโลก (สามารถดูวีดีโอฉบับเต็มที่นี่ )

---

Written by:

Lory Pongpol

Source:

https://www.youtube.com/watch?v=wHLEG6a1sRI

http://www.the-pomp-official.com/home/2015/7/3/tough-tumble

---

เคลียร์ซะที.. เจล, แว๊กซ์ และ โพเมด ต่างกันอย่างไร?

เคยไหม..มองดูผลิตภัณฑ์แต่งผมที่วางเรียงเป็นตับ บนชั้นวางในห้าง แต่ก็ได้แต่อ้างว้าง เพราะไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร.. ไอ้นี่ แว๊กซ์แน่ๆ แต่มันเหมือนกะเจลรึปล่าว โพเมด คืออะไรมันเข้ากับผมอย่างเรามั้ย ได้เวลาไขข้อข้องใจกันตรงนี้ นี่คือความแตกต่างของทั้ง 3ผลิตภัณฑ์..

GEL

Based: แอลกอฮอล์

เรามาเริ่มกันที่เจล ลักษณะพิเศษคือ เจลโดยส่วนมากเนื้อจะใส, แสงทะลุปรุโปร่ง ล้างออกก็ง่าย นั่นคือความเข้มข้นของเนื้อเจล จะเบาบางกว่าทั้งแว๊กซ์ และ โพเมด ลักษณะพิเศษคือ เจลจะทิ้งความมันเงาไว้กับเส้นผม (Wet Look)

ที่ต่างจากแว๊กซ์ และ โพเมดอีกอย่างคือ เจลสามารถแห้งกังอยู่ในอากาศ นั่นอาจเป็นเพราะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม หากซื้อเจล จึงควรเลือกเจลชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอลผสมนะครับ มันจะช่วยให้เวลาเซตแล้วไม่เกิดขุยขาวๆ บนเส้นผม

ทรงผมแบบที่เหมาะกับเจล คือ ทรงผมแบบผมชี้ๆเป็นปอย (Spike-look) หรือ เซตผมตั้งไม่มากและเงาๆ หากใช้เจล ข้อแนะนำคือ ผมเส้นเล็กๆควรเลือกใช้ประเภท Light-Hold ผมเส้นใหญ่หน่อย หยักศกนิดๆก็ Strong-Hold ไปเลยครับ

ยี่ห้อแนะนำ: Got2Be, Jack Black (ไม่มีขายในไทยครับ --")

---

WAX

Based: ขี้ผึ้ง

มาถึงผลิตภัณฑ์ยอดฮิตในหมู่หนุ่มๆไทย บ้างก็เรียกแว๊กซ์, เพสต์ หรือ เคลย์ คืออันเดียวกันหมดครับ ลักษณะเฉพาะตัวคือ ความเข้มข้นของแว๊กซ์ที่มากกว่าทั้งเจล และโพเมด เหมาะสำหรับคนที่ชอบเซตผมแบบแข็งพิเศษ

ขณะที่ข้อจำกัดของมันก็คือแว๊กซ์ ไม่มีความยืดหยุ่น ผมที่เซตไว้ได้แว๊กซ์จะเปลี่ยนทรงระหว่างวันได้ยาก และเมื่อใช้เพิ่มมันก็จะเหนียวและเซตกลับไปเป็นแบบเดิมได้ยาก 

90 เปอร์เซ็นต์ของแว๊กซ์ตามท้องตลาด จะเป็น Matte Finish คือเซตออกมาแบบไม่เงา มีเพียงบางยี่ห้อที่เพิ่มความเงาเข้าไปในตัวแว๊กซ์ (แต่ก็จะไม่เงาเต็มที่) ดังนั้นแว๊กซ์เหมาะคุณที่ชอบทำผมแบบยุ่งๆนิด ไม่เนี้ยบมาก

ยี่ห้อแนะนำ: Fellow Barber $24, UpperCut $17 (ราคาไทย 930 บาท )

---

POMADES

Based: น้ำมัน และ น้ำ

โพเมด คือผลิตภัณฑ์เวอร์ชั่นคลาสสิคของWax จินตนาการว่าโพเมดที่ดีจะทำให้ผมคุณเรียบเท่ย้อนยุคเหมือน พระเอกซีรี่ส์ Mad Men โพเมด ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ การทำผมเรียบลู่ (Slicked-Back), กระบังหวีขึ้น (Quiff), ทรงผมคลาสสิค Pompadour อย่างเอลวิส หรือ Ducktail แบบมีผมปอยตงลงมาข้างหน้า ที่พิเศษกว่าเจล และแว๊กซ์ คือโพเมดไม่แข็งในอากาศ ทำให้ผมไม่ชี้เด่ แข็งอยู่ทรง และยังปรับแต่งได้ระหว่างวัน

โพเมดแบ่งได้เป็น 2 ชนิดหลักคือ Oil-Based และ Water-Based

Oil-Based Pomade ชื่อก็บอกแล้วว่าประกอบด้วย น้ำมันเป็นส่วนใหญ่ เดิมทีทำจากไขมันสัตว์ เพื่อให้ได้ความแข็งและเงางาม แต่ข้อเสียคือล้างออกยาก Water-Based Pomade เป็นโพเมดยุคใหม่ที่ทำจากส่วนประกอบที่ละลายน้ำได้ นั่นทำให้ล้างออกได้ง่าย และดีกับสุขภาพหนังศรีษะมากกว่า Oil-Based Pomade แต่ยังคงคุณสมบัติยึดเกาะไว้ได้ดีเหมือนเดิม มีทั้งแบบเงาและด้าน

ยี่ห้อแนะนำ: Tough & Tumble ลาว่า โพเมด แบรนด์ใหม่ล่าสุดจากเมืองบรู๊คลิน ราคา $20 (650 บาท) สนใจคลิ๊ก--> SHOP

สรุป

เราขอสรุปคีย์เวิร์ดให้จำง่ายๆ ท่องไว้ให้ขึ้นใจ อย่างละ 3 คำ ได้ว่า..

GEL: เบา-เงา-ชี้ !!

WAX: แข็ง-ด้าน-ยุ่ง !!

POMADE: ยึด-เรียบ-เนี้ยบ !!

ไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมแบบไหน ไม่สำคัญครับ แค่เลือกให้เข้ากับสไตล์ตัวเอง แค่นั้นคุณเองก็จะดูดีมีสไตล์

---

Written by:

Lory Pongpol

Source:

http://www.pomades.com/pomades-gel-waxes.html

http://www.businessinsider.com/mens-hair-product-2014-11

http://www.onionbkk.com/media/catalog/product/

---