fbq('track', 'ViewContent');

การโบกรถผจญภัย หรือ "ฮิทช์ไฮกิ้ง" เป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบLow-Cost ดั้งเดิมในอเมริกา สมัยยังไม่มีรถแท๊กซี่, อูเบอร์ หรือ รถไฟเข้าถึง ผู้คนจึงต้องติดรถ ติดเกวียนคนท้องที่โดยสารเข้าไป.. หลายคนถามว่าการเดินทางแบบนี้ปลอดภัยจริงๆหรือ..? ที่อเมริกาถือเป็นเรื่องปกติ บางคนเคยมีสถิติฮิทช์ไฮกิ้ง 17000ไมล์ไปแล้วทั่วประเทศ และแม้กระทั่งอดีตประธานาธิบดีอย่าง เรนัล โรแกน ก็เคยลองมาแล้ว.. ทางทีมงานทัฟแอนด์ทัมเบิล จึงขอนำเสนอ ขั้นตอนการฮิทช์ไฮกิ้ง แบบถูกต้อง เผื่อหนุ่มคนไหนอยากผจญภัยขึ้นมาบ้าง..

1. ศึกษากฎหมายให้ดี

แม้การโบกรถขอติดไปกับรถผู้อื่นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในไทย และอเมริกา.. แต่ในบางท้องที่กลับมีข้อกำหนดยิบย่อยที่แตกต่างกัน เช่น การโบกรถทำได้ ที่ถนนหลวงขนาด3เลนเป็นต้นไป - ต้องมีระยะให้รถจอดได้อย่างปลอดภัย.. ศึกษาไว้ก็ดี ดีกว่าโบกรถผิดที่ทาง ไปๆมาๆ ได้ติดรถตำรวจไปสน.ซะงั้น


2. เอาสัมภาระไปให้น้อยที่สุด

ของยิ่งน้อยเท่าไหร่ ทริปคุณจะสบายขึ้นเท่านั้น.. ควรเตรียมสัมภาระจัดกระเป๋า เหมือนคุณออกเดินทางไปทริป 2-3วันเท่านั้น.. อย่าบ้าหอบฟาง ด้วยการเอาเพลย์สเตชั่น ไปนั่งเล่นด้วย.. เลือกแต่อุปกรณ์ที่จำเป็น.. เสื้อผ้า, ถุงนอน, น้ำดื่มอย่างน้อย2ขวด, ที่ชาร์จไฟมือถือสำรอง เป็นต้น


3. เตรียมพลังใจให้เกิน100

ฮิทช์ไฮกิ้ง ไม่ใช่เรื่องง่าย.. คุณมีโอกาสต้องยืนตากแดด ริมถนนเป็นชั่วโมงๆ เพื่อรอให้รถซักคันเมตตามารับคุณไป.. ยิ่งการไปทิศทางที่ลึกลับเท่าไหน โอกาสที่คุณจะเจอรถที่ไปทางเดียวกันยิ่งยากเท่านั้น.. เคล็บลับความสำเร็จของฮิทช์ไฮเกอร์เหล่านี้ จึงเป็นการมองบวก และ รู้จักทำให้ตัวเองผ่อนคลายเสมอตลอดการเดินทาง


4. แต่งกายให้เหมาะสม

ลองนึกเร็วๆกลับกัน ว่าคุณกำลังขับรถ.. แล้วมีคนแปลกหน้ามาโบกรถคุณ สิ่งแรกที่คุณต้องดู ก็คือการแต่งกายนั่นเอง.. ตามสถิติแล้ว คนขับรถมีแนวโน้มที่จะรับ ฮิทช์ไฮเกอร์ที่แต่งกายคล้ายๆตัวเอง.. เช่น ใส่เสื้อจีนส์ หรือ ลายตาราง น่าจะทำให้ได้ผล มากกว่าใส่เสื้อสูทผูกไท โบกรถ.. ลุคโดยรวม, ทรงผมต้องสะอาด


5. หาตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุด

การเลือกยืนในตำแหน่งที่ ถูกที่ถูกเวลา สำคัญมากๆ.. ลองเลือกยืนใกล้ๆ ในตำแหน่งเปิดโล่ง มีแสงสว่างชัดเจน หรือ ยืนแถวๆป้ายหยุดสัญญาณจราจร สี่แยก จะเพิ่มโอกาสที่คนขับรถจะเห็นและรับคุณมากขึ้น


6. ได้เวลายื่นนิ้วโป้ง โบกรถ!

ยื่นมือของคุณออกไปด้วยความมั่นใจ สบตาคนที่ขับรถผ่าน ยิ้มร่าเริง แสดงความเป็นมิตร.. หลายคนเอาเครื่องดนตรีมาเล่นพลางๆ ถือเป็นจุดขายที่ดี.. พยายามยืน อย่าแสดงอาการห่อเหี่ยว นั่งยองๆ สูบบุหรี่ กินเหล้า.. เพราะท่าทีเหล่านั้นจะ ลดเปอร์เซ็นต์การที่รถจะมาโฉบรับคุณ.. หากยืนโบกอยู่นานๆ ควรหาเวลาไปพักกินกาแฟ นอนใต้ต้นไม้บ้าง.. การเขียนป้าย"จุดหมาย"ที่เห็นในหนัง ไม่ค่อยมีความจำเป็น เพราะส่วนใหญ่คนขับแทบจะไม่ทันอ่านว่าสถานที่คุณคือที่ไหน..


7. เลือกรถให้ถูก

ไม่จำเป็นว่าคุณต้องโดยสารรถทุกคันที่จอดให้ แต่ให้ตรวจสอบอีกนิดเพื่อความแน่ใจว่า คุณจะปลอดภัยเมื่อโดยสารไปกับเค้า เริ่มต้นด้วยคำถามพื้นฐานเช่น มุ่งหน้าไปไหน และทำอะไร? ตรวจสอบความน่าเชื่อถือเค้า ว่าเค้ามองตา หรือ หลบตาคุณผิดปกติหรือไม่ ทั้งนี้ยังมีวิธีการตรวจสอบ 5สัญญาณเร็วๆ เช่น กลิ่นของรถ, ดูว่าคนขับอยู่ในสภาพมึนเมาหรือไม่, หลีกเลี่ยงรถที่โดยสารมามากกว่า1คน เพราะนั่นเท่ากับมีความเสี่ยงจากการคุกคามมากขึ้น..


8. มารยาทระหว่างโดยสาร

ไม่ขึ้นไปนอนกรนใส่เค้า หรือเรียกร้องให้แวะที่นั่นที่นี่.. กลับกัน สร้างบรรยากาศเป็นมิตร ด้วยการชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ที่คุณกำลังจะไป ถามเค้าเกี่ยวกับข้อมูลท้องถิ่น.. เพราะคนขับที่รับคุณแล้ว ส่วนใหญ่จะเปิดกว้าง และอยากเล่าเรื่องในท้องที่ให้คุณฟัง ..และแน่นอนงดคุยเรื่องระเอียดอ่อนอย่าง การเมือง ศาสนา


9. ลงรถ

P3171939.jpg

ถึงแม้คุณได้จุดหมายที่คุณจะลง กับคนขับแล้ว ..ทางเราแนะนำให้คุณเปิดแผนที่Google Mapในมือถือเช็คตลอดเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังตรงไปที่หมายจริง (ไม่ได้ถูกนำไปขายที่ชายแดน 55).. ก่อนลงก็อย่าลืมกล่าวขอบคุณ คนที่ขับรถพาคุณมา.. สถานที่ที่ลงรถก็สำคัญเช่นกัน ควรเลือกลงที่ปลอดภัยชัวร์ๆอย่าง ปั๊มน้ำมัน หรือ ลานจอดรถ.. อีกทั้งยังสะดวกกับการหารถ ถ้าคุณยังต้องโบกรถไปต่อ


Written by:

Lory Pongpol

Source:

http://www.artofmanliness.com/

Google Image


Comment