สีผิว รูปร่าง หน้าตา เชื้อชาติ ทำให้คนแตกต่างกันจริงหรอ? การที่คนแข็งแรงกว่าทำร้ายคนอ่อนแอเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรอ? จากข่าวคุณวิชา รัตนภัคดี คนไทยที่โดนผลักจนล้มและเสียชีวิตในต่างแดน ทำให้เห็นว่าการเหยียดผิวในอเมริการุนแรงและถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นเพราะความคิดที่ว่าคนเอเชียคือตัวแพร่เชื้อไวรัสก็ได้ ที่เป็นตัวกระตุ้นความเกลียดให้ทวีความรุนแรงขึ้นขนาดนี้ แต่จริง ๆ แล้วการเหยียดผิวนั้นควรจะหยุดไปได้ตั้งนานแล้ว เพราะทุกคนเกิดมามีความเท่าเทียมกัน ไม่ควรมีใครถูก Treat แย่กว่าคนอื่น ไม่ควรมีการแบ่งแยกกันเกิดขึ้น วันนี้ Tough & Tumble เลยจะมาบอกวิธีหยุด Asian Hate แบบที่ Gentlemen ทำกัน!
ให้เกียรติทุกคนอย่างเท่าเทียม
รู้จักให้เกียรติคนอื่น...ไม่ใช่แค่ผู้หญิงแต่ให้เกียรติทุกคนรอบตัว ไม่ว่าเชื้อชาติไหนก็ไม่ควรสองมาตรฐาน เพราะนั่นคือเบสิคพื้นฐานที่ผู้ชายทุกคนควรทำ การปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม หากทุกคนบนโลกนี้รู้จักให้เกียรติกันและกัน รับรองว่าการเหยียดผิวจะไม่มีทางเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
การอยู่เฉย ๆ = ร่วมบูลลี่
ให้ลองนึกว่าคนที่กำลังโดนเหยียดผิวคือตัวคุณเองหรือคนที่คุณรัก คุณก็คงอยากให้มีใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเริ่มที่ตัวคุณเอง… ออกมาปกป้อง ถ่ายคลิป แจ้งตำรวจหรือทำอะไรสักอย่างถ้าเห็นการเหยียดผิวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดด้วยคำพูดหรือด้วยการกระทำ คุณก็ไม่ควรนิ่งเฉย! เพราะการนิ่งเท่ากับว่าคุณเห็นด้วยและยอมรับกับการบูลลี่คนอื่นในสังคม การเหยียดผิวจะไม่มีทางหมดไปถ้าวันนี้คุณยังไม่เริ่มทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดมัน
เปิดใจยอมรับความต่างแบบไม่อคติ
เปิดใจเรียนรู้ว่าแต่ละเชื้อชาติมีวัฒนธรรม การพูดจา การวางตัวที่ต่างกัน เรียนรู้ที่จะเข้าใจความต่างนั้นโดยไม่เอาความคิดหรือวัฒนธรรมตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ตัดสินคนอื่นจากมุมมองของตัวเองเพราะบางครั้งคุณอาจจะเป็นคนแปลกในสายตาคนอื่นก็ได้ อย่างที่ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ออกมาบอกว่า “การเหยียดคนอื่นมันเรื่องที่สิ้นคิดมาก”
ระวังคำพูด
คำพูดมีผลต่อความรู้สึกอย่างมาก บางคำคุณอาจพูดโดยไม่คิดอะไร แต่คนฟังอาจจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ระวังคำพูดของตัวเองกับคนรอบข้างให้มาก ๆ เพราะสิ่งที่คุณพูดอาจเป็นการเหยียดคนอื่นแบบไม่รู้ตัวและมันอาจจะติดอยู่ในใจเค้าไปตลอดก็ได้ เลยมีคำพูดที่ว่า “คุณควรรู้จักคิดก่อนพูดเพราะคุณไม่สามารถแก้ไขอะไรที่ออกจากปากไปแล้ว ทำได้มากสุดก็แค่ขอโทษแต่ไม่สามารถเอาความรู้สึกไม่ดีที่เสียไปกลับมาได้” เช่น คุณอาจจะร้องเพลงแรพด้วย n* word แบบไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าคนผิวสีได้ยิน รับรองว่าไม่ขำแน่นอน เพราะมันถือเป็นคำที่หยาบคายและเหยียดผิวมากในต่างประเทศ
ให้กำลังใจ ปลอบใจคนอื่น
การให้กำลังใจแม้เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือการรับฟังปัญหาที่คนอื่นเจอมาก็ถือเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำให้กันได้เพื่อเยียวยาความรู้สึกของคนอื่น ช่วยให้สังคมปัจจุบันน่าอยู่มากยิ่งขึ้นในยุคที่คนส่วนใหญ่สาดคำพูดแย่ ๆ ใส่กันบนโลกออนไลน์โดยไม่สนใจความรู้สึกของคนโดนเลยด้วยซ้ำ
ไม่ใช้กำลัง
ไม่ควรใช้กำลังกับใคร ไม่ว่าเรื่องไรก็ตาม โดยเฉพาะกับคนที่อ่อนแอกว่า เค้าไม่สู้ไม่ได้แปลว่าเค้าสู้ไม่ได้ เพราะคนเอเชียส่วนใหญ่ไม่อยากมีปัญหา เลยเลือกที่จะไม่สู้คนดีกว่า แต่ไม่ใช่ชนชาติอ่อนแออย่างที่ทุกคนคิด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนชาติอื่นจะไปรังแกพวกเค้าได้ เพราะถ้าหากเค้าฮึตสู้ขึ้นมาจริง ๆ คุณก็อาจจะเจ็บหนักเหมือนกัน การรังแกคนอื่นก็ไม่ได้โชว์ว่าคุณแข็งแรงเลยด้วยซ้ำแต่มันทำให้เห็นว่าคุณอ่อนแอเกินกว่าจะใช้กำลังในทางที่ถูกได้ เพราะลูกผู้ชายตัวจริงเค้าไม่ทำร้ายคนอื่นกัน เหมือนที่เลอบรอน เจมส์ บอกไว้ว่า “การทำร้ายคนไม่มีทางสู้ มันคือการกระทำของพวกขี้ขลาดตาขาว”
มีคนอีกมากมายจากทั่วทุกมุมโลกที่กำลังโดนบูลลี่ เหยียดสีผิวอยู่ในชีวิตประจำ เพราะฉะนั้นหยุดทำให้มันเป็นเรื่องปกติ! ไม่ว่าคนเราจะเกิดมาจากประเทศไหน ชนชาติใด ทุกคนมีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน คนเอเชียนไม่ใช่ตัวแพร่เชื้อไวรัส การเหยียดสีผิวต่างหากที่เป็นไวรัส! ไม่มีใครสมควรถูกตราหน้าและทำร้ายจากความคิดตื้น ๆ ของใครบางคน การไม่บูลลี่หรือเหยียดคนอื่นไม่ว่าจะเป็นสีผิว รูปร่าง หน้าตา หรือเชื้อชาติคือสิ่งที่สุภาพบุรุษทุกคนควรทำ การไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่ามันยิ่งทำให้เราดูแข็งแกร่ง มากกว่าการมีกล้ามหรือมีร่างกายที่แข็งแรงซะอีก THE ASIAN HATE MUST STOP
Written by: Nat Saranya